Position:home  

เคส 777: สอนให้คนไทยรู้จักออมเงินและวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

บทนำ

เคส 777 เป็นปรากฏการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยมีผู้ลงทุนจำนวนมากเข้าไปลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมต่างๆ จนราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานราคาก็ดิ่งลงอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก เคส 777 จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้คนไทยรู้จักออมเงินและวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

ตัวเลขที่น่าตกใจจากเคส 777

จากข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าในช่วงที่เกิดเคส 777 มีผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนสูงถึง 9.2 ล้านราย และมีมูลค่าการซื้อขายหุ้นสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท ต่อวัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท

เคส 777

บทเรียนที่ได้จากเคส 777

เคส 777 เป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้คนไทยรู้จักออมเงินและวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด โดยมีบทเรียนสำคัญดังนี้

เคส 777: สอนให้คนไทยรู้จักออมเงินและวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

  • อย่าลงทุนเกินความสามารถที่ตัวเองรับได้
  • กระจายความเสี่ยง
  • อย่าลงทุนตามกระแส
  • ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจ

3 เรื่องที่สอนให้รู้จักวางแผนการเงิน


เรื่องที่ 1

ตัวเลขที่น่าตกใจจากเคส 777

มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ นาย A ที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต วันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเกษียณอายุและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสุขสบาย แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับจดหมายจากธนาคาร แจ้งว่าเงินในบัญชีของเขาไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเขา นาย A จึงต้องกลับไปทำงานต่อทั้งที่อายุมากแล้ว

บทเรียนที่ได้: การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้เรามีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในยามฉุกเฉินและในยามเกษียณอายุ


เรื่องที่ 2

มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ นาง B ที่ทำงานมาหลายปีและเก็บออมเงินมาโดยตลอด วันหนึ่งเธอตัดสินใจที่จะลงทุนในหุ้น แต่เธอไม่รู้เรื่องการลงทุนเลย เธอจึงลงทุนตามคำแนะนำของเพื่อน โดยหวังว่าจะได้กำไรมหาศาล

แต่แล้วราคาหุ้นก็ดิ่งลงอย่างรุนแรง ทำให้ นาง B สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก เธอเสียใจมากที่ตัวเองไม่รู้เรื่องการลงทุนและลงทุนตามคำแนะนำของเพื่อน ที่ไม่น่าเชื่อถือ

เคส 777: สอนให้คนไทยรู้จักออมเงินและวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

บทเรียนที่ได้: การลงทุนเป็นเรื่องที่เสี่ยง ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน และไม่ควรลงทุนตามคำแนะนำของคนอื่นที่ไม่น่าเชื่อถือ


เรื่องที่ 3

มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ นาย C ที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิตและเก็บออมเงินมาโดยตลอด วันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเกษียณอายุและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสุขสบาย เขาแบ่งเงินเก็บของเขาออกเป็น 3 ส่วน

  • ส่วนที่ 1 นำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรและเงินฝากธนาคาร
  • ส่วนที่ 2 นำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมหุ้น
  • ส่วนที่ 3 นำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น

นาย C วางแผนการลงทุนของเขาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังของสินทรัพย์แต่ละประเภท ผลจากการวางแผนการลงทุนที่ดี ทำให้ นาย C มีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในยามเกษียณอายุและในยามฉุกเฉิน

บทเรียนที่ได้: การวางแผนการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ และช่วยให้เรามีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในอนาคต

ตารางสรุปบทเรียนจากเคส 777


บทเรียน คำอธิบาย
อย่าลงทุนเกินความสามารถที่ตัวเองรับได้ ควรลงทุนในจำนวนที่เราสามารถรับได้ในกรณีที่ขาดทุน
กระจายความเสี่ยง ควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง
อย่าลงทุนตามกระแส ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เราศึกษาแล้วและเข้าใจ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน


3 ตารางที่มีประโยชน์


ตารางที่ 1: ผลกระทบของเคส 777


ผลกระทบ คำอธิบาย
ผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาในตลาดหุ้น 9.2 ล้านราย
มูลค่าการซื้อขายหุ้น 2.2 ล้านล้านบาทต่อวัน
มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านล้านบาท


ตารางที่ 2: วิธีวางแผนการเงิน


ขั้นตอน คำอธิบาย
ตั้งเป้าหมายทางการเงิน กำหนดเป้าหมายทางการเงินในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน เกษียณอายุ
จัดทำงบประมาณ บันทึกรายรับและรายจ่ายเพื่อติดตามการใช้จ่าย
ลดค่าใช้จ่าย หาวิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
เพิ่มรายได้ หาวิธีเพิ่มรายได้จากงานประจำหรือธุรกิจเสริม
ลงทุน นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สิน


ตารางที่ 3: ประเภทของสินทรัพย์


ประเภทของสินทรัพย์ ความเสี่ยง ผลตอบแทนที่คาดหวัง
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ต่ำ ต่ำ
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง สูง สูง


กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการวางแผนการเงิน

กลยุทธ์ที่ 1: ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน

ก่อนที่จะวางแผนการเงิน ควรตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจนเสียก่อน โดยควรเป็นเป้าหมายที่ SMART ดังนี้

  • Specific (จำเพาะ)
  • Measurable (วัดผลได้)
  • Achievable (บรรลุได้)
  • Relevant (เกี่ยวข้อง)
  • Time-bound (มีกรอบเวลา)

กลยุทธ์ที่ 2: จัดทำงบประมาณ

การจัดทำงบประมาณเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการเงิน โดยควรบันทึกรายรับและรายจ่ายอย่างละเอียด เพื่อติดตามการใช้จ่ายและหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

กลยุทธ์ที่ 3: ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้

หลังจากจัดทำงบประมาณแล้ว ควรพิจารณาหาวิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหาวิธีเพิ่มรายได้จากงานประจำหรือธุรกิจเสริม เพื่อเพิ่มเงินออม

กลยุทธ์ที่ 4: ลงทุนอย่างชาญฉลาด

การลงทุนเป็นวิธีที่

Time:2024-08-27 03:03:55 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss