คู่มือต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

การต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องดำเนินการให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การมี พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ จะช่วยคุ้มครองทั้งเจ้าของรถและคู่กรณีได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว

ทำไมการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ถึงสำคัญ

ตามข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของอุบัติเหตุจราจรทั้งหมดในประเทศไทย และจากข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่า ในปี 2564 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์สูงถึง 2,825 ราย

การต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายต่างๆ ให้กับทั้งเจ้าของรถและคู่กรณีได้อย่างครอบคลุม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ประสบเหตุได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์

การต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ผ่านช่องทางออนไลน์มีข้อดีหลายประการ ได้แก่

• สะดวกและรวดเร็ว: สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเดินทางไปที่บริษัทประกันภัยหรือขนส่ง
• ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และรอคิวนานๆ
• ประหยัดค่าใช้จ่าย: เบี้ยประกันภัยออนไลน์มักถูกกว่าการต่อที่บริษัทประกันภัยโดยตรง
• ปลอดภัย: ช่วยลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ

วิธีการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเอกสาร

• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนาใบขับขี่
• สำเนาเล่มทะเบียนรถ
• หลักฐานการต่อภาษีประจำปี (หากมี)

ขั้นตอนที่ 2: เลือกบริษัทประกันภัย

ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยหลายแห่งที่เปิดให้บริการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์ โดยสามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยและโปรโมชันต่างๆ จากแต่ละบริษัทได้ก่อนตัดสินใจเลือก

ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูล

กรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลรถจักรยานยนต์ในแบบฟอร์มออนไลน์ของบริษัทประกันภัยที่เลือก โดยทั่วไปจะต้องกรอกข้อมูลดังต่อไปนี้

• ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์
• เลขที่บัตรประชาชน เลขที่ใบขับขี่ และเลขที่เล่มทะเบียนรถ
• ยี่ห้อ รุ่น และปีที่ผลิตของรถจักรยานยนต์
• วันเริ่มคุ้มครอง

ขั้นตอนที่ 4: ชำระเบี้ยประกันภัย

หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระ โดยสามารถชำระได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง, QR Code เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 5: รับกรมธรรม์

เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยเรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันภัยจะส่งกรมธรรม์ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ มาให้ทางอีเมลหรือไปรษณีย์

ตารางเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์

| บริษัทประกันภัย | เบี้ยประกันภัย (บาท) |
|---|---|---|
| วิริยะประกันภัย | 641 |
| อาคเนย์ประกันภัย | 665 |
| กรุงเทพประกันภัย | 692 |
| ไทยประกันภัย | 710 |
| สินมั่นคงประกันภัย | 720 |

หมายเหตุ: อัตราเบี้ยประกันภัยอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น รุ่นรถจักรยานยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ และประวัติการเกิดอุบัติเหตุ

กลยุทธ์ในการเลือกซื้อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์

เพื่อให้ได้เบี้ยประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุด ควรคำนึงถึงกลยุทธ์ต่อไปนี้

• เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ บริษัท: อย่าต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ กับบริษัทแรกที่เจอ ให้สละเวลาเปรียบเทียบราคาและโปรโมชันจากบริษัทอื่นๆ ก่อน
• เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ: ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัยก่อนตัดสินใจเลือก โดยดูจากประวัติการให้บริการและการเคลมสินไหมทดแทน
• คำนวณค่าใช้จ่ายที่แท้จริง: คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่าย รวมทั้งเบี้ยประกันภัย ค่าธรรมเนียมต่างๆ และค่าซ่อมรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจ่ายไหว
• พิจารณาความคุ้มครองเพิ่มเติม: บริษัทประกันภัยบางแห่งอาจเสนอความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ประกันตัวผู้ขับขี่หรือประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ควรพิจารณาความจำเป็นและความคุ้มค่าของความคุ้มครองเหล่านี้ด้วย

ข้อควรระวังในการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์

• ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง: ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลรถจักรยานยนต์อย่างละเอียดก่อนยืนยันการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันความผิดพลาด
• เก็บหลักฐานไว้: บันทึกหลักฐานการชำระเบี้ยประกันภัยและกรมธรรม์ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ไว้เป็นหลักฐาน
• อย่าซื้อความคุ้มครองที่ไม่จำเป็น: พิจารณาความคุ้มครองที่จำเป็นจริงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเบี้ยประกันภัยที่แพงเกินไป
• อย่าฝากต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ กับผู้อื่น: ควรต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ด้วยตนเองเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

คำถามที่พบบ่อย

1. ต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ออนไลน์แล้วต้องแจ้งกรมขนส่งไหม

ไม่จำเป็นต้องแจ้ง เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะแจ้งข้อมูลการต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ไปยังกรมขนส่งโดยอัตโนมัติ

2. ต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ช้าเกินกำหนดได้ไหม

ได้ แต่จะต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด

3. ต่อ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์แล้วต้องติดสติ๊กเกอร์ไหม

ไม่จำเป็น แต่หากต้องการติดสติ๊กเกอร์ สามารถติดได้ที่บริเวณหน้ารถจักรยานยนต์

4. พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

• ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้ประสบเหตุ
• ค่าซ่อมรถจักรยานยนต์และรถคันคู่กรณี
• ค่าสินไหมทดแทนในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร