สูตรคำนวณ Min/Max Stock ใน Excel: เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังของคุณ

การจัดการสินค้าคงคลังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจค้าปลีก การรักษาสมดุลระหว่างการมีสต็อกที่เพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและหลีกเลี่ยงต้นทุนการถือครองที่มากเกินไปเป็นสิ่งจำเป็น สูตร Min/Max ใน Excel ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยกำหนดเกณฑ์ระดับต่ำสุด (Min) และสูงสุด (Max) สำหรับแต่ละรายการสินค้า

ทำไมสูตรคำนวณ Min/Max ถึงสำคัญ?

การใช้สูตร Min/Max มีประโยชน์มากมาย ได้แก่:

• ลดการขาดสต็อก: สูตร Min ช่วยให้คุณทราบเมื่อสต็อกของรายการสินค้าใดถึงเกณฑ์ต่ำสุดที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเติมสต็อกก่อนที่จะขาดสต็อกได้
• ลดต้นทุนการถือครอง: สูตร Max ช่วยให้คุณทราบเมื่อสต็อกของรายการสินค้าใดเกินเกณฑ์สูงสุดที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถระบุรายการสินค้าที่ต้องขายออกหรือกำจัดออกไปได้
• เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่: การรักษาสต็อกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมช่วยให้คุณสามารถจัดสรรพื้นที่จัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ปรับปรุงการบริการลูกค้า: การมีสินค้าคงคลังที่เพียงพอช่วยให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งช่วยปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า

วิธีคำนวณ Min/Max Stock

สูตรคำนวณ Min และ Max สำหรับสินค้าคงคลังคือ:

• Min = (อัตราการขายรายวันเฉลี่ย x ระยะเวลาการนำสินค้าเข้าใหม่) + สต็อกเพื่อความปลอดภัย
• Max = อัตราการขายรายวันเฉลี่ย x ระยะเวลาการนำสินค้าเข้าใหม่) x (1 + เปอร์เซ็นต์ความปลอดภัย)

ตัวอย่าง:

สมมติว่า:

• อัตราการขายรายวันเฉลี่ย = 100 หน่วย
• ระยะเวลาการนำสินค้าเข้าใหม่ = 10 วัน
• สต็อกเพื่อความปลอดภัย = 20 หน่วย
• เปอร์เซ็นต์ความปลอดภัย = 10%

การคำนวณ:

• Min = (100 หน่วย x 10 วัน) + 20 หน่วย = 1,200 หน่วย
• Max = (100 หน่วย x 10 วัน) x (1 + 0.10) = 1,100 หน่วย

ดังนั้น เกณฑ์ระดับต่ำสุดสำหรับรายการสินค้านี้คือ 1,200 หน่วย และเกณฑ์ระดับสูงสุดคือ 1,100 หน่วย เมื่อสต็อกของรายการสินค้านี้ลดลงต่ำกว่า 1,200 หน่วย คุณจะต้องสั่งซื้อสินค้าใหม่ และเมื่อสต็อกเพิ่มขึ้นเกิน 1,100 หน่วย คุณจะต้องพิจารณาขายออกหรือกำจัดสินค้าส่วนเกินออกไป

ตารางการคำนวณ Min/Max Stock

ตารางต่อไปนี้แสดงตัวอย่างการคำนวณ Min/Max สำหรับรายการสินค้าต่างๆ:

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการ Min/Max Stock

• ติดตามสต็อกอย่างสม่ำเสมอ: ตรวจสอบระดับสต็อกเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ภายในเกณฑ์ Min/Max
• ใช้ระบบ MRP (การวางแผนความต้องการวัสดุ): ระบบ MRP ช่วยในการวางแผนการจัดซื้อและการผลิตโดยคำนึงถึงอุปสงค์และอุปทาน
• ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์: สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับซัพพลายเออร์เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลา
• ใช้เทคโนโลยี: มีซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันมากมายที่สามารถช่วยในการจัดการสต็อกและคำนวณ Min/Max
• ฝึกอบรมพนักงาน: ให้การฝึกอบรมแก่พนักงานเกี่ยวกับวิธีใช้สูตร Min/Max และวิธีจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับและกลเม็ดเด็ด

• ใช้ข้อมูลในอดีต: อ้างอิงข้อมูลยอดขายในอดีตเพื่อประมาณอัตราการขายรายวันเฉลี่ย
• พิจารณาปัจจัยตามฤดูกาล: คำนึงถึงความผันผวนตามฤดูกาลในความต้องการเมื่อคำนวณ Min/Max
• ปรับตามความจำเป็น: ตรวจสอบและปรับเกณฑ์ Min/Max เป็นประจำเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลง

เรื่องราวตลกและบทเรียนที่ได้

เรื่องราวที่ 1:

ร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งใช้สูตร Min/Max แต่ลืมคำนึงถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่กำลังจะมาถึง ผลก็คือ ร้านค้ามีสินค้าคงคลังไม่เพียงพอและขาดสต็อกในช่วงกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งทำให้สูญเสียยอดขายไปอย่างมาก

บทเรียน:

• พิจารณาปัจจัยภายนอกเมื่อคำนวณ Min/Max
• ปรับเกณฑ์ Min/Max เพื่อรองรับกิจกรรมที่คาดการณ์ไว้

เรื่องราวที่ 2:

บริษัทจัดซื้อลืมคำนวณเกณฑ์ Max และสั่งซื้อสินค้าส่วนเกินจำนวนมาก ผลก็คือ บริษัทต้องแบกรับต้นทุนการถือครองสินค้าที่สูงซึ่งส่งผลกระทบต่อผลกำไร

บทเรียน:

• คำนวณทั้งเกณฑ์ Min และ Max อย่างรอบคอบ
• ตรวจสอบว่าเกณฑ์ Max เหมาะสมและไม่เกินความต้องการ

เรื่องราวที่ 3:

พนักงานในคลังสินค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีใช้สูตร Min/Max และตั้งเกณฑ์ Min ที่สูงเกินไป ผลก็คือ สินค้าคงคลังส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้นานเกินไปและล้าสมัย

บทเรียน:

• ให้การฝึกอบรมแก่พนักงานอย่างเพียงพอเกี่ยวกับวิธีใช้สูตร Min/Max
• ตรวจสอบเกณฑ์ Min/Max อย่างสม่ำเสมอเพื่อความถูกต้อง