Position:home  

เปิดใจ "OPD คืออะไร" จุดเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ถูกต้อง

OPD ย่อมาจาก Outpatient Department หมายถึง หน่วยงานในโรงพยาบาลที่ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอก เว้นแต่ที่ต้องรับไว้รักษาค้างคืนในโรงพยาบาล
ในปัจจุบัน เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือมีปัญหาสุขภาพ พวกเขามักจะเริ่มต้นที่แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ก่อน OPD จึงเป็นด่านหน้าในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยมีหน้าที่หลักดังนี้

  • ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทั่วไป เช่น ไข้หวัด ปวดหัว ท้องเสีย เป็นต้น
  • ให้บริการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ
  • ให้บริการฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลา
  • ให้บริการทำแผล ล้างแผล เปลี่ยนผ้าปูที่นอน
  • ให้บริการกายภาพบำบัด ฟื้นฟูสมรรถภาพ
  • ให้บริการตรวจสุขภาพประจำปี

รู้จักบริการ OPD

บริการ OPD แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

1. บริการ OPD ทั่วไป
เป็นบริการที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการเจ็บป่วยไม่รุนแรง โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น ไข้หวัด ปวดหัว ท้องเสีย เป็นต้น

2. บริการ OPD เฉพาะทาง
เป็นบริการที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยที่ซับซ้อน หรือมีอาการเฉพาะทาง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไต เป็นต้น บริการ OPD เฉพาะทางมักจะอยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

opd คือ

การเตรียมตัวรับบริการ OPD

ก่อนรับบริการ OPD ผู้ป่วยควรเตรียมตัวดังนี้

  • บัตรประชาชน
  • บัตรสิทธิการรักษาพยาบาล (บัตรทอง บัตรประกันสังคม)
  • ใบส่งตัว (ถ้ามี)
  • ประวัติการรักษาโรคเดิม (ถ้ามี)
  • ยาที่รับประทานอยู่ประจำ (ถ้ามี)
  • เงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล

ขั้นตอนการใช้บริการ OPD

ขั้นตอนการใช้บริการ OPD ทั่วไป มีดังนี้

  1. ลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนและบัตรสิทธิการรักษาพยาบาล
  2. รับบัตรคิวและรอเรียกชื่อ
  3. เมื่อถึงคิว เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา
  4. รับยาและใบสั่งยาจากเภสัชกร
  5. ชำระค่ารักษาพยาบาล (ถ้ามี)

หมายเหตุ: ขั้นตอนการใช้บริการ OPD อาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล

เปิดใจ "OPD คืออะไร" จุดเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ถูกต้อง

ประโยชน์ของการใช้บริการ OPD

การใช้บริการ OPD มีประโยชน์หลายประการ เช่น

  • ได้รับการรักษาจากแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ
  • ได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างถูกต้อง
  • ได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรค
  • ได้รับยาและการรักษาที่เหมาะสม
  • ไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล

ข้อควรระวังในการใช้บริการ OPD

ข้อควรระวังในการใช้บริการ OPD มีดังนี้

  • ไม่ควรใช้บริการ OPD เมื่อมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น ปวดหัวรุนแรง หายใจลำบาก แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
  • ไม่ควรใช้บริการ OPD เมื่อมีอาการฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ ถูกทำร้าย อาการหัวใจล้มเหลว เป็นต้น
  • ไม่ควรซื้อยาหรือรับประทานยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • ไม่ควรปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงเกินไป ควรรีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ

เรื่องเล่าจาก OPD

เรื่องเล่าจาก OPD เป็นเรื่องราวที่ได้จากการทำงานในแผนก OPD ซึ่งสามารถนำมาเป็นบทเรียนเพื่อการดูแลสุขภาพได้

เรื่องที่ 1

ชายหนุ่มอายุ 30 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหัวมานาน 1 เดือน แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง แพทย์จึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและจ่ายยาเพื่อลดความดันโลหิตให้

เปิดใจ "OPD คืออะไร" จุดเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ถูกต้อง

หลังจากนั้น 1 เดือน ชายหนุ่มกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง อาการปวดหัวดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ชายหนุ่มบอกว่าเขารับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และดูแลสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ

บทเรียน: โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการในระยะแรก หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต เป็นต้น การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจพบโรคความดันโลหิตสูงในระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

เรื่องที่ 2

หญิงสาวอายุ 25 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องบริเวณด้านขวา แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์จึงนัดผู้ป่วยไปผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก

หลังผ่าตัด หญิงสาวกลับมาพบแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจติดตามผลการผ่าตัด อาการปวดท้องของหญิงสาวดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าแผลผ่าตัดหายดีแล้ว หญิงสาวบอกว่าหลังจากผ่าตัดแล้วเธอรู้สึกสบายขึ้นมาก

บทเรียน: โรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น การอักเสบของถุงน้ำดี การติดเชื้อในถุงน้ำดี ภาวะถุงน้ำดีแตก การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจพบโรคนิ่วในถุงน้ำดีในระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

เรื่องที่ 3

ชายวัยกลางคนอายุ 45 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการไอเรื้อรัง แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคหืด แพทย์จึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและจ่ายยาเพื่อลดอาการหอบหืดให้

หลังจากนั้น 1 เดือน ชายวัยกลางคนกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง อาการไอดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าอาการหอบหืดดีขึ้นมาก ชายวัยกลางคนบอกว่าเขารับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และดูแลสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ

บทเรียน: โรคหืดเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น การอักเสบของหลอดลม การติดเชื้อในปอด ภาวะหอบหืดรุนแรง การรักษาโรคหืดโดยใช้ยาและการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

เคล็ดลับการใช้บริการ OPD

เคล็ดลับการใช้บริการ OPD ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้

  • เลือกโรงพยาบาลที่มีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาที่ผู้ป่วยต้องการรับบริการ
  • ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจองคิวและลดระยะเวลาในการรอคอย
  • เตรียมเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพบแพทย์ให้ครบถ้วน
  • ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนกับแพทย์ เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาโร
Time:2024-09-05 09:09:02 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss