น้ำยาใต้สูตรเด็ด รสชาติจัดจ้านถึงใจ

น้ำยาใต้ เป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคใต้ที่มีรสชาติจัดจ้าน เป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะมีกลิ่นหอมเครื่องเทศชวนรับประทานและมีรสชาติกลมกล่อมลงตัว สามารถรับประทานได้ทั้งกับข้าวสวยหรือขนมจีน และยังสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารอื่นๆ ได้อีกหลากหลายชนิด

ส่วนผสมน้ำยาใต้

• พริกแกงใต้ 1 ถ้วย
• กะทิ 2 กล่อง
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย
• เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ 1/2 กิโลกรัม
• บวบหั่นแว่น 1 ลูก
• ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1/2 กิโลกรัม
• ใบมะกรูดซอย 10 ใบ
• มะเขือเปราะหั่นแว่น 1/2 กิโลกรัม
• ใบโหระพา 1/2 ถ้วย
• ตะไคร้ซอย 5 ต้น
• เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำยาใต้

1. ผัดพริกแกง ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ พอร้อนใส่พริกแกงลงไปผัดจนหอมและสุก แล้วใส่เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ลงไปผัดให้สุก
2. ใส่กะทิและน้ำเปล่า เทกะทิลงไปผัดให้แตกมัน แล้วเทน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่ผัก ใส่บวบ ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด มะเขือเปราะลงไปแล้วคนให้เข้ากัน แล้วปรุงรสด้วยเกลือ
4. เคี่ยวต่อ เคี่ยวด้วยไฟกลางจนผักเริ่มนิ่มและน้ำยาเริ่มข้น
5. ใส่ใบโหระพา ใส่ใบโหระพาลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเคี่ยวต่อจนใบโหระพาสลบ
6. เสิร์ฟ ตักน้ำยาใต้ใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยตะไคร้ซอย แล้วเสิร์ฟกับข้าวสวยหรือขนมจีน

เคล็ดลับความอร่อย

• เลือกพริกแกงใต้ที่มีคุณภาพดี จะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่มีรสชาติจัดจ้านและกลมกล่อม
• ผัดพริกแกงให้หอม จะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่มีกลิ่นหอมเครื่องเทศชวนรับประทาน
• ใส่น้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่มีความข้นหนืดที่พอดี
• เคี่ยวน้ำยาใต้ให้เข้าเนื้อ จะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่มีรสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น

การเก็บรักษาน้ำยาใต้

• น้ำยาใต้สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 2-3 วัน
• เมื่อต้องการรับประทาน เพียงนำน้ำยาใต้ไปอุ่นให้ร้อน แล้วเสิร์ฟกับข้าวสวยหรือขนมจีน

ประโยชน์ของการรับประทานน้ำยาใต้

• มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
• มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
• ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะมีส่วนประกอบของกะทิ ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
• ช่วยลดน้ำหนัก เพราะมีส่วนประกอบของพริกแกงใต้ ซึ่งมีแคปไซซินที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน

ตารางเปรียบเทียบน้ำยาใต้ที่ทำเองกับน้ำยาใต้สำเร็จรูป

เรื่องราวขำขันเกี่ยวกับน้ำยาใต้

1. น้ำยาใต้ที่เผ็ดจนลิ้นชา

ครั้งหนึ่ง มีชาวเหนือคนหนึ่งไปเที่ยวภาคใต้และได้ชิมน้ำยาใต้เป็นครั้งแรก เขาชอบใจในรสชาติของน้ำยาใต้มากจนสั่งเบิ้ล แต่เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับความเผ็ดของพริกแกงใต้ จึงทำให้ลิ้นชาไปหลายวัน

2. น้ำยาใต้ที่ทำให้พ่นไฟ

มีหนุ่มคนหนึ่งไปงานเลี้ยงและได้ชิมน้ำยาใต้ที่เจ้าภาพทำไว้ เขารู้สึกชอบใจในรสชาติมากจนกินเข้าไปหลายถ้วย เมื่อเขากลับถึงบ้านก็รู้สึกปากชาและเจ็บคอมาก จนต้องพ่นไฟออกมาเพื่อระบายความแสบร้อน

3. น้ำยาใต้ที่ทำให้เกิดเรื่องฮา

ครอบครัวหนึ่งได้ไปเที่ยวภาคใต้และได้ซื้อน้ำยาใต้สำเร็จรูปติดกลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านก็เปิดน้ำยาใต้แล้วเทลงในหม้อเพื่ออุ่นให้ร้อน แต่ปรากฏว่าน้ำยาใต้ได้ล้นออกมาจากหม้อและกระเซ็นไปทั่วห้องครัว ทำให้เกิดเสียงหัวเราะทั้งบ้าน

บทสรุป

น้ำยาใต้เป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคใต้ที่มีรสชาติจัดจ้านและกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย หากใครที่อยากชิมน้ำยาใต้รสชาติเด็ดๆ แนะนำให้ทำรับประทานเอง เพราะนอกจากจะได้น้ำยาใต้ที่รสชาติถูกใจแล้ว ยังปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย