Position:home  

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20: อาวุธทรงพลังแห่งสนามรบ

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 เป็นปืนใหญ่ขนาด 152 มม. ที่ได้รับการพัฒนาโดยสหภาพโซเวียตในช่วงทศวรรษที่ 1950 ปืนใหญ่ชนิดนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ โดยมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในความขัดแย้งต่างๆ ทั่วโลก

ประวัติ

แนวคิดในการพัฒนาปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ขนาด 152 มม. รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1940 เมื่อกองทัพโซเวียตตระหนักว่าปืนใหญ่ที่มีอยู่ขณะนั้นล้าสมัยเกินกว่าที่จะรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของกองกำลังพันธมิตรตะวันตก

d 20 howitzer

การพัฒนาปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 เริ่มขึ้นในปี 1953 โดยทีมงานนักออกแบบที่นำโดย Fyodor Petrov โครงการนี้ใช้เวลานานกว่า 5 ปี โดยปืนใหญ่ต้นแบบตัวแรกได้สร้างเสร็จในปี 1958 ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ได้รับการนำเข้าประจำการในกองทัพโซเวียตในปี 1963

คุณสมบัติ

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20: อาวุธทรงพลังแห่งสนามรบ

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ซึ่งรวมถึง:

  • ความแม่นยำสูง: ปืนใหญ่มีระบบการเล็งที่แม่นยำและสามารถยิงได้อย่างแม่นยำในระยะไกล
  • อัตราการยิงสูง: ปืนใหญ่สามารถยิงได้สูงสุด 6 นัดต่อนาที
  • ความคล่องตัวสูง: ปืนใหญ่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้เหมาะสำหรับการปฏิบัติการในสนามรบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ความทนทานสูง: ปืนใหญ่ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบันและสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ

การใช้งาน

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ได้รับการนำไปใช้ในความขัดแย้งต่างๆ ทั่วโลก รวมถึง:

  • สงครามเวียดนาม
  • สงครามอัฟกานิสถาน
  • สงครามอิรัก
  • สงครามกลางเมืองซีเรีย

ปืนใหญ่ชนิดนี้ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดิน จัดการกับเป้าหมายในระยะไกล และปราบปรามการโจมตีของข้าศึก

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 มีดังนี้:

คุณสมบัติ ค่า
ขนาดลำกล้อง 152 มม.
ความยาวลำกล้อง 24 เท่าของขนาดลำกล้อง (3.648 เมตร)
มุมกวาดทางด้านข้าง 57 องศา
มุมกวาดทางด้านสูง -5 ถึง +63 องศา
ความเร็วปากกระบอกปืน 655 เมตรต่อวินาที
ระยะยิงสูงสุด 17,400 เมตร
อัตราการยิงสูงสุด 6 นัดต่อนาที
น้ำหนักในการรบ 5,500 กิโลกรัม

การผลิต

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ได้รับการผลิตในหลายประเทศ รวมถึง:

  • สหภาพโซเวียต
  • รัสเซีย
  • จีน
  • สาธารณรัฐประชาชนบัลแกเรีย
  • สาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย

ปืนใหญ่ชนิดนี้ยังได้รับการผลิตภายใต้ใบอนุญาตในหลายประเทศ เช่น:

ประวัติ

  • อียิปต์
  • อิรัก
  • เวียดนาม

ผู้ใช้งาน

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ได้รับการนำไปใช้โดยกองทัพของกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ประเทศผู้ใช้ที่โดดเด่น ได้แก่:

  • รัสเซีย
  • จีน
  • อินเดีย
  • อียิปต์
  • อิรัก
  • เวียดนาม
  • ซีเรีย
  • ลิเบีย
  • แอลจีเรีย

บทบาทในสนามรบ

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 มีบทบาทสำคัญในสนามรบ ได้แก่:

  • ให้การสนับสนุนด้วยปืนใหญ่แก่กองกำลังภาคพื้นดิน
  • จัดการกับเป้าหมายในระยะไกล
  • ปราบปรามการโจมตีของข้าศึก
  • ทำลายสิ่งกีดขวางและป้อมปราการ

ข้อดี

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 มีข้อดีหลายประการ ได้แก่:

  • ความแม่นยำสูง
  • อัตราการยิงสูง
  • ความคล่องตัวสูง
  • ความทนทานสูง
  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปืนใหญ่ชนิดอื่น

ข้อเสีย

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 มีข้อเสียบางประการ ได้แก่:

  • ขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก
  • ต้องใช้ลูกเรือจำนวนมากในการปฏิบัติการ
  • ระยะยิงค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับปืนใหญ่ชนิดอื่น

การพัฒนา

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงอายุการใช้งาน ปืนใหญ่รุ่นที่พัฒนาขึ้น ได้แก่:

  • D-20A1: รุ่นที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมการเล็งที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • D-20A2: รุ่นที่มีการเล็งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
  • 2A36 Giatsint-B: รุ่นที่ทันสมัยซึ่งมีอัตราการยิงที่สูงขึ้นและระยะยิงที่ยาวขึ้น

การใช้งานในปัจจุบัน

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ยังคงให้บริการในกองทัพของหลายประเทศทั่วโลก ปืนใหญ่ชนิดนี้ยังคงเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินและจัดการกับเป้าหมายในระยะไกล

บทสรุป

ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 เป็นปืนใหญ่ขนาด 152 มม. ที่ทรงพลังและเชื่อถือได้ ปืนใหญ่ชนิดนี้มีประวัติการใช้งานที่ยาวนานและโดดเด่นในการให้การสนับสนุนด้วยปืนใหญ่แก่กองกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์ D-20 ยังคงให้บริการในกองทัพของหลายประเทศทั่วโลก และคาดว่าจะยังคงใช้งานต่อไปอีกหลายปี

Time:2024-09-05 12:29:19 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss