Position:home  

เฉิดฉายลอยกระทง ตามเสียงเพลงอันไพเราะ

กำเนิดเพลงลอยกระทงอันลือเลื่อง

เพลงลอยกระทง ถือเป็นบทเพลงอมตะที่ขับขานกันมาช้านาน โดยมีที่มาจากบทประพันธ์ชื่อ "ลอยกระทง" ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล หรือที่รู้จักกันในนามปากกา หม่อมเจ้าอัคนี ที่ทรงประพันธ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2469 ขณะทรงศึกษาวิชาดนตรีที่ประเทศอังกฤษ

เนื้อหาของบทเพลงบรรยายบรรยากาศการลอยกระทงอันงดงาม ผสานกับความคิดถึงและความปรารถนาดีที่ส่งผ่านไปพร้อมกับกระทงที่ลอยไปตามสายน้ำ บทเพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และต่อมาได้ถูกนำมาขับร้องในงานลอยกระทงทั่วประเทศ

บทเพลงสะท้อนวัฒนธรรมไทย

เนื้อเพลงลอยกระทงได้สะท้อนให้เห็นถึง วัฒนธรรมและประเพณีอันงดงามของไทย ผ่านการบรรยายถึงประเพณีลอยกระทงที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล

ไหลไปตามสายชล ลอยเวียนวน
งามจับใจเย็นฉ่ำ มหรรณพ
ลอยกระทงกันเถิดหนา มาร่วมแรง
พร้อมใจส่งประกายแข่งแสงดาว

คำว่า "ไหลไปตามสายชล ลอยเวียนวน" บ่งบอกถึงการลอยกระทงที่เป็นไปตามธรรมชาติของสายน้ำ ส่วน "งามจับใจเย็นฉ่ำ มหรรณพ" เปรียบเทียบความงามของกระทงที่ลอยกลางน้ำกับความงามของท้องทะเลอันกว้างใหญ่

loi krathong song

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงความร่วมแรงร่วมใจของผู้คนในการลอยกระทงร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคีและความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย

ลอยกระทงกันเถิดหนา มาร่วมแรง
พร้อมใจส่งประกายแข่งแสงดาว

ความคิดถึงและความหวังที่ลอยไปกับสายน้ำ

อีกหนึ่งความโดดเด่นของบทเพลงลอยกระทงคือการสื่อถึง ความคิดถึงและความหวัง ที่ผู้คนฝากไปกับกระทงที่ลอยไปตามสายน้ำ

ลอยความทุกข์โศก ลอยความริษยา
ลอยกระทงลอยไป ไกลสุดตา

คำว่า "ลอยความทุกข์โศก ลอยความริษยา" บ่งบอกถึงการปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบทั้งหลายให้ไหลไปกับสายน้ำ ส่วน "ลอยกระทงลอยไป ไกลสุดตา" เปรียบเสมือนการส่งความปรารถนาและความหวังให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล

การเปรียบเทียบกระทงกับความคิดถึงและความหวังยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของคนไทยที่มองว่าสายน้ำสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกันได้

เฉิดฉายลอยกระทง ตามเสียงเพลงอันไพเราะ

สายน้ำไหลไม่หยุดนิ่ง เช่นคนเรา
ความหวังนั้นยังเฝ้ารอ อยู่ที่นั่น
ทุกชีวิตของเรา เหมือนกระทงเรือ
ลอยไปตามน้ำวน ที่หมุนเวียน

คำว่า "สายน้ำไหลไม่หยุดนิ่ง เช่นคนเรา" เปรียบเทียบการไหลของสายน้ำกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ส่วน "ความหวังนั้นยังเฝ้ารอ อยู่ที่นั่น" แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในความหวังที่ยังคงรอคอยอยู่

บทเพลงลอยกระทงจึงไม่เพียงแต่เป็นบทเพลงที่ขับกล่อมให้เกิดความสุข แต่ยังเป็นบทเพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณี ความคิดถึง ความหวัง และความเชื่อของคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง

ตารางที่ 1: ประวัติเพลงลอยกระทง

รายละเอียด ข้อมูล
ผู้ประพันธ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล (หม่อมเจ้าอัคนี)
ปีที่ประพันธ์ พ.ศ. 2469
แนวเพลง เพลงไทยเดิม

ตารางที่ 2: ความหมายของเนื้อเพลงลอยกระทง

ท่อนเพลง ความหมาย
ไหลไปตามสายชล ลอยเวียนวน บรรยายการลอยกระทงตามธรรมชาติของสายน้ำ
งามจับใจเย็นฉ่ำ มหรรณพ เปรียบเทียบความงามของกระทงกับความงามของท้องทะเล
ลอยกระทงกันเถิดหนา มาร่วมแรง สะท้อนความสามัคคีในการลอยกระทงร่วมกัน
พร้อมใจส่งประกายแข่งแสงดาว เปรียบเทียบความสว่างของกระทงกับแสงของดวงดาว
ลอยความทุกข์โศก ลอยความริษยา การปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบให้ไหลไปกับสายน้ำ
ลอยกระทงลอยไป ไกลสุดตา การส่งความปรารถนาและความหวังให้ล่องลอยไปไกล
สายน้ำไหลไม่หยุดนิ่ง เช่นคนเรา การเปรียบเทียบการไหลของสายน้ำกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์
ความหวังนั้นยังเฝ้ารอ อยู่ที่นั่น การเชื่อมั่นในความหวังที่ยังคงรอคอยอยู่

ตารางที่ 3: ประโยชน์ของการลอยกระทง

ประโยชน์ รายละเอียด
รักษาประเพณีและวัฒนธรรม ช่วยสืบทอดประเพณีลอยกระทงอันงดงามของไทย
ส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดงานลอยกระทงช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดรายได้แก่ท้องถิ่น
กระตุ้นเศรษฐกิจ การขายกระทงและอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาล
สร้างความสามัคคี การลอยกระทงร่วมกันช่วยสร้างความรักและความสามัคคีในชุมชน
สร้างความผ่อนคลาย การลอยกระทงช่วยให้ผู้คนได้พักผ่อนหย่อนใจและปลดปล่อยความเครียด

เคล็ดลับการลอยกระทงที่ปลอดภัย

  • เลือกใช้กระทงที่เป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง เปลือกข้าวโพด กระดาษสา เพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
  • ไม่ใส่ธูปหรือเทียนลงในกระทง เพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้
  • ระมัดระวังขณะลอยกระทงในบริเวณน้ำลึกหรือน้ำไหลเชี่ยว
  • ลอยกระทงในบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  • ช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณงานลอยกระทง โดยไม่ทิ้งขยะลงในน้ำ

เรื่องราวตลกๆ ที่เกิดขึ้นในวันลอยกระทง

เรื่องที่ 1:

ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินไปตามท่าน้ำเพื่อลอยกระทง ในมือถือกระทงที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม ขณะที่กำลังจะปล่อยกระทงลงน้ำ เขากลับพลาดท่าลื่นล้มไป ทำให้กระทงตกลงไปในน้ำพร้อมกับเขาทั้งตัว ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็หัวเราะกันลั่น พร้อมกับช่วยกันพยุงชายหนุ่มขึ้นมาจากน้ำ

บทเรียนที่ได้: ควรระมัดระวังขณะลอยกระทงบริเวณท่าน้ำที่ลื่น

เรื่องที่ 2:

ครอบครัวหนึ่งพากันมาลอยกระทงที่ริมแม่น้ำ ขณะที่กำลังลอยกระทง ลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบก็เกิดความคิดนึกอยากลอยกระทงของตัวเองบ้าง เธอจึงคว้าเอาโทรศัพท์มือถือของแม่มาและโยนลงไปในน้ำอย่างไม่ทันคิด ครอบครัวทั้งบ้านต่างก็ตกใจและหัวเราะกันยกใหญ่

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล

บทเรียนที่ได้: ควรเก็บของมีค่าให้ห่างจากมือเด็กก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เรื่องที่ 3:

ชายหนุ่มสองคนชวนกันไปลอยกระทงที่วัดแห่งหนึ่ง ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน พวกเขาก็เห็นกระทงใบหนึ่งลอยวนอยู่ใกล้ๆ จึงรีบวิ่งไล่ไปเพื่อจะได้แก้บนตามความเชื่อ หนึ่งในชายหนุ่มวิ่งได้

Time:2024-09-06 05:40:43 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss