ชีสเบอราต้า ราชินีแห่งชีส: ความอร่อยอันแสนละมุนลิ้น

เบอราต้า (Burrata) คือ ชีสอิตาเลียน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยความนุ่มละมุน และมีไส้ครีมที่ไหลเยิ้มเมื่อตัดออกมา ตามรายงานของสมาคมชีสแห่งชาติอิตาลี (National Cheese Association of Italy) เบอราต้าคิดเป็น 80% ของการผลิตชีสทั้งหมดในอิตาลี

ประวัติความเป็นมาของเบอราต้า

เบอราต้ามีต้นกำเนิดในเมืองอัลตามูรา ประเทศอิตาลี ในปี 1920 ชาวนาในท้องถิ่นได้คิดค้นวิธีการทำชีสโดยการใส่เศษชีสที่เหลือจากการทำ ชีสมอสซาเรลลา (Mozzarella) ลงในถุงผ้าและห่อด้วยใบโหระพา ด้วยวิธีการนี้ทำให้ชีสมีรสชาติที่นุ่มละมุนและมีไส้ที่เยิ้ม

วิธีการผลิตเบอราต้า

การผลิตเบอราต้าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความชำนาญสูง เริ่มจากการทำมอซซาเรลลาแบบดั้งเดิม ซึ่งทำจาก นมควาย หรือ นมวัว เมื่อได้มอซซาเรลลาแล้ว จะนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเติมครีม นม และเกลือลงไปก่อนที่จะใส่ลงในถุงผ้าที่ทำจากใบโหระพาหรือใบจัสมิน สุดท้ายมัดปากถุงและแขวนไว้เพื่อให้ชีสหมาด

คุณค่าทางโภชนาการของเบอราต้า

เบอราต้าเป็นอาหารที่ อุดมไปด้วยโปรตีน และ แคลเซียม นอกจากนี้ยังมี วิตามิน A และ วิตามิน B12 อีกด้วย

ประโยชน์ของการรับประทานเบอราต้า

การรับประทานเบอราต้าเป็นประจำมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ได้แก่

• เสริมสร้างกระดูกและฟัน เนื่องจากเบอราต้าอุดมไปด้วยแคลเซียม
• ช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากเบอราต้ามีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ
• บำรุงผิวและผม เนื่องจากเบอราต้ามีวิตามิน A ซึ่งช่วยบำรุงผิวและผมให้แข็งแรง

วิธีการรับประทานเบอราต้า

เบอราต้าสามารถนำไปรับประทานได้หลากหลายวิธี ได้แก่

• สลัด เบอราต้าเข้ากันได้ดีกับสลัดผักสด โดยสามารถนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือหั่นครึ่งแล้ววางบนผักสลัด
• พิซซ่า เบอราต้าเป็นส่วนผสมที่นิยมใช้ในพิซซ่า เนื่องจากรสชาติที่นุ่มละมุนและไส้ที่เยิ้ม
• พาสต้า เบอราต้าสามารถเพิ่มความอร่อยให้กับพาสต้า โดยนำไปใส่ในซอสหรือโรยบนพาสต้าที่ปรุงสุกแล้ว
• ทานเปล่าๆ เบอราต้าสามารถนำมารับประทานเปล่าๆ พร้อมกับขนมปังกรอบหรือผลไม้สด

เคล็ดลับและเทคนิค

• เลือกเบอราต้าที่สดใหม่โดยสังเกตจากสีที่ขาวนวลและความนุ่ม
• เก็บเบอราต้าในตู้เย็นที่อุณหภูมิประมาณ 4-5 องศาเซลเซียส
• นำเบอราต้าออกจากตู้เย็นก่อนรับประทานประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด
• ใช้มีดคมๆ ในการหั่นเบอราต้าเพื่อให้ไส้ไม่ไหลออกมา

เรื่องราวเบาๆ เกี่ยวกับเบอราต้า

• เบอราต้าและหนุ่มชาวนา เล่ากันว่าหนุ่มชาวนาในเมืองอัลตามูราได้คิดค้นวิธีการทำชีสเบอราต้าโดยบังเอิญ ขณะที่เขาพยายามหาทางใช้ประโยชน์จากเศษชีสมอสซาเรลลาที่เหลืออยู่
• เบอราต้าบนยอดเขา นักปีนเขาในอิตาลีได้นำเบอราต้าไปรับประทานบนยอดเขา แต่เนื่องจากความสูงทำให้เบอราต้าไหลเยิ้มออกมาจนเปรอะทั่วเสื้อผ้า ทำให้กลายเป็นเรื่องตลกในหมู่นักปีนเขา
• เบอราต้าแห่งความรัก ชาวอิตาเลียนเชื่อว่าการรับประทานเบอราต้าร่วมกับคนรักจะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

วิธีการทำเบอราต้าแบบทีละขั้นตอน

ส่วนผสม

• นมควายหรือนมวัว 1 ลิตร
• หัวเชื้อเรนเน็ต 1/4 ช้อนชา
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ครีม 150 มิลลิลิตร
• นม 100 มิลลิลิตร

ขั้นตอน

1. นำนมใส่หม้อแล้วตั้งไฟให้ร้อนจนถึง 35 องศาเซลเซียส
2. ละลายหัวเชื้อเรนเน็ตในน้ำเย็น 1/4 ถ้วยแล้วเทลงในนม
3. คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วปล่อยให้นมจับตัวเป็นก้อนประมาณ 1 ชั่วโมง
4. ตัดก้อนนมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคนต่ออีกประมาณ 15 นาที
5. เติมเกลือลงในก้อนนมแล้วคนอีก 5 นาที
6. ตักก้อนนมใส่ผ้าขาวบางแล้วมัดให้แน่น
7. แขวนผ้าขาวบางไว้ในที่เย็นประมาณ 12 ชั่วโมง
8. นำก้อนนมออกจากผ้าขาวบางแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
9. ผสมครีมและนมในชาม
10. ตักส่วนผสมครีมใส่ลงในถุงผ้า
11. มัดปากถุงแล้วแขวนไว้ในที่เย็นประมาณ 12 ชั่วโมง

คำถามที่พบบ่อย

1. เบอราต้าทำจากอะไร?
เบอราต้าทำจากนมควายหรือนมวัว

2. เบอราต้ามีรสชาติอย่างไร?
เบอราต้ามีรสชาติที่นุ่มละมุนและมีไส้ที่เยิ้ม

3. เบอราต้าสามารถเก็บได้นานเท่าไร?
เบอราต้าสามารถเก็บได้ในตู้เย็นประมาณ 3-4 วัน

4. เบอราต้าใช้ทำอะไรได้บ้าง?
เบอราต้าสามารถนำไปรับประทานได้หลากหลายวิธี เช่น สลัด พิซซ่า และพาสต้า

5. เบอราต้าหาซื้อได้ที่ไหน?
เบอราต้าสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของชำและร้านขายชีสชั้นนำ

6. เบอราต้ามีราคาเท่าไร?
ราคาของเบอราต้าแตกต่างกันไปตามขนาดและยี่ห้อ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 150-250 บาทต่อลูก

7. เบอราต้าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพหรือไม่?
เบอราต้าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และวิตามิน จึงถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ