มะเขือเทศโรม่า: ของดีคู่ครัวที่ควรรู้ทุกแง่มุม

มะเขือเทศโรม่า เป็นมะเขือเทศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยครองสัดส่วนถึง 80% ของมะเขือเทศที่ผลิตทั้งหมด ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสที่แน่น และคุณค่าทางโภชนาการที่สูง จึงทำให้มะเขือเทศโรม่าเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในหลากหลายเมนูอาหาร

สารบัญ

• คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศโรม่า
• ประโยชน์ของมะเขือเทศโรม่าต่อสุขภาพ
• การนำมะเขือเทศโรม่าไปใช้ในเมนูอาหาร
• วิธีการเลือกซื้อมะเขือเทศโรม่า
• วิธีการเก็บรักษามะเขือเทศโรม่า
• สูตรเด็ดเมนูอาหารจากมะเขือเทศโรม่า
• ตารางเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศโรม่ากับมะเขือเทศชนิดอื่น
• ตารางการใช้มะเขือเทศโรม่าในเมนูอาหารยอดนิยม
• ตารางวิธีการเก็บรักษามะเขือเทศโรม่าอย่างถูกวิธี

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศโรม่า

มะเขือเทศโรม่าอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่

• วิตามินซี: 1 ลูก (148 กรัม) ให้วิตามินซี 23 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็น 38% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการต่อวัน
• โพแทสเซียม: 1 ลูก (148 กรัม) ให้โพแทสเซียม 289 มิลลิกรัม
• วิตามินเค: 1 ลูก (148 กรัม) ให้วิตามินเค 10 ไมโครกรัม
• ไลโคปีน: สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและสุขภาพโดยรวม

ประโยชน์ของมะเขือเทศโรม่าต่อสุขภาพ

การรับประทานมะเขือเทศโรม่าเป็นประจำอาจมีส่วนช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ดังนี้

• ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ: ไลโคปีนในมะเขือเทศโรม่าช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต
• ลดความเสี่ยงมะเร็ง: ไลโคปีนยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร
• บำรุงสายตา: วิตามินซีในมะเขือเทศโรม่าช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีในมะเขือเทศโรม่ายังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อ

การนำมะเขือเทศโรม่าไปใช้ในเมนูอาหาร

มะเขือเทศโรม่ามีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อสัมผัสที่แน่น จึงเหมาะสำหรับการนำไปทำเมนูอาหารต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น

• ซอสและน้ำสลัด: มะเขือเทศโรม่าเหมาะสำหรับการทำซอสและน้ำสลัด เพราะเนื้อสัมผัสที่แน่นจะช่วยให้ได้ซอสที่มีเนื้อเนียนและรสชาติเข้มข้น
• พิซซ่าและพาสต้า: มะเขือเทศโรม่าเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของพิซซ่าและพาสต้าหลายชนิด โดยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูอาหารเหล่านี้
• สลัด: มะเขือเทศโรม่าสามารถนำไปใส่ในสลัดได้ทั้งแบบดิบและสุก โดยจะช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับสลัด
• ซุปและสตูว์: มะเขือเทศโรม่าสามารถนำไปใส่ในซุปและสตูว์ได้ โดยจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติให้กับอาหาร

วิธีการเลือกซื้อมะเขือเทศโรม่า

เมื่อเลือกซื้อมะเขือเทศโรม่าให้เลือกผลที่มีลักษณะดังนี้

• สี: เลือกมะเขือเทศที่มีสีแดงสดใส ไม่มีจุดด่างดำหรือรอยช้ำ
• รูปร่าง: เลือกมะเขือเทศที่มีรูปร่างยาวรี ไม่บุบหรือแตก
• ความแน่น: ลองกดเบาๆ ที่มะเขือเทศ ถ้าเนื้อแน่นแสดงว่าเป็นมะเขือเทศที่สด

วิธีการเก็บรักษามะเขือเทศโรม่า

มะเขือเทศโรม่าสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 1 สัปดาห์ โดยมีวิธีการดังนี้

• ที่อุณหภูมิห้อง: สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ 2-3 วันโดยวางไว้ในที่ร่มและอากาศถ่ายเทได้สะดวก
• ในตู้เย็น: สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 สัปดาห์โดยใส่ในถุงพลาสติกหรือกล่องปิดมิดชิด

สูตรเด็ดเมนูอาหารจากมะเขือเทศโรม่า

ซอสโรม่า

ส่วนประกอบ:

• มะเขือเทศโรม่า 1 กิโลกรัม
• หอมใหญ่ 1 หัว
• กระเทียม 2 กลีบ
• น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ:

1. ล้างมะเขือเทศให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ปอกหอมใหญ่และกระเทียมแล้วสับให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกลงไป แล้วใส่หอมใหญ่และกระเทียมลงไปผัดจนหอม
4. ใส่ มะเขือเทศลงไปผัด แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ
5. ผัดจนมะเขือเทศสุกนุ่ม แล้วปิดไฟ
6. ใช้เครื่องปั่นบดซอสโรม่าให้ละเอียดแล้วนำไปใช้ได้เลย

พาสต้าซอสโรม่า

ส่วนประกอบ:

• พาสต้า 1 ห่อ (500 กรัม)
• ซอสโรม่า 1 ถ้วยตวง
• ชีสพาร์เมซานขูด 1/2 ถ้วยตวง
• ใบโหระพาซอย 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ:

1. ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่พาสต้าลงไปต้มตามเวลาที่ระบุบนห่อ
2. พอพาสต้าสุกแล้ว ให้สะเด็ดน้ำออก แล้วนำไปใส่ในหม้อที่ปรุงซอสโรม่าไว้
3. คนให้เข้ากัน แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ
4. ตักใส่จาน โรยชีสพาร์เมซานและใบโหระพา แล้วเสิร์ฟ

ตารางเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศโรม่ากับมะเขือเทศชนิดอื่น

ตารางการใช้มะเขือเทศโรม่าในเมนูอาหารยอดนิยม