เค้กเรดเวลเวตสีแดงก่ำ สุดยอดขนมหวานที่ใครๆ ก็หลงใหล
เค้กเรดเวลเวตกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยสีแดงก่ำอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่แสนอร่อยลงตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำขนมตัวยงหรือแค่ชื่นชอบการลิ้มรสความอร่อย เค้กเรดเวลเวตก็มีอะไรให้ทุกคนอย่างแน่นอน
ต้นกำเนิดที่น่าสนใจ
ต้นกำเนิดที่แท้จริงของเค้กเรดเวลเวตยังคงเป็นปริศนาอยู่บ้าง แต่มีทฤษฎียอดนิยมสองสามทฤษฎี
-
ทฤษฎีโรงแรมวอลดอร์ฟ-อัสโทเรีย: โรงแรมวอลดอร์ฟ-อัสโทเรียในนครนิวยอร์กอ้างว่าได้คิดค้นเค้กเรดเวลเวตขึ้นในปี 1920 เพื่อเป็นเกียรติแก่ลูกค้าประจำ
-
ทฤษฎีสงครามโลกครั้งที่ 2: อีกทฤษฎีหนึ่งชี้ให้เห็นว่าเค้กเรดเวลเวตถือกำเนิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อแม่บ้านใช้หัวบีทรสหวานเพื่อเพิ่มสีแดงให้กับเค้กเนื่องจากขาดโกโก้
ส่วนผสมและกรรมวิธีการทำ
หัวใจสำคัญของเค้กเรดเวลเวตอยู่ที่ส่วนผสมและกรรมวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์
ส่วนผสม:
- แป้งเค้ก
- น้ำตาลทราย
- ผงโกโก้ดิบ
- บัตเตอร์
- ไข่
- บัตเทอร์มิลค์
- วินิการ
- สีผสมอาหารสีแดง
กรรมวิธีการทำ:
เค้กเรดเวลเวตแบ่งออกเป็นขั้นตอนที่สำคัญหลายขั้นตอน
-
ตีส่วนผสมเปียกและแห้ง: ผสมส่วนผสมเปียก (เนย ไข่ บัตเทอร์มิลค์ วินิการ) กับส่วนผสมแห้ง (แป้ง น้ำตาล ผงโกโก้)
-
ผสมสีผสมอาหาร: เพิ่มสีผสมอาหารสีแดงและผสมให้เข้ากันจนเป็นสีแดงก่ำ
-
อบ: อบเค้กในพิมพ์จนสุก
-
ทาครีมชีสฟรอสติ้ง: ทาครีมชีสฟรอสติ้งหนาๆ ลงบนเค้กที่เย็นแล้ว
เคล็ดลับความอร่อย
-
ใช้ผงโกโก้คุณภาพสูง: ผงโกโก้ดิบคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มรสชาติที่ลุ่มลึกและเข้มข้นให้กับเค้ก
-
ใช้บัตเทอร์มิลค์แท้ๆ: บัตเทอร์มิลค์แท้จะทำให้เค้กนุ่มและชุ่มชื้นกว่าการใช้บัตเทอร์มิลค์สำเร็จรูป
-
อย่าตีส่วนผสมมากเกินไป: การตีส่วนผสมมากเกินไปอาจทำให้เค้กเหนียว
-
ทดลองกับรสชาติต่างๆ: นอกจากรสชาติแบบคลาสสิกแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มรสชาติอื่นๆ ลงในเค้กเรดเวลเวตได้ เช่น ช็อกโกแลตชิป วานิลลา หรือสตรอว์เบอร์รี
ประโยชน์ทางโภชนาการ
แม้ว่าเค้กเรดเวลเวตจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ทางโภชนาการ แต่ก็มีสารอาหารบางอย่างเช่น
-
คาร์โบไฮเดรต: เค้กเรดเวลเวตเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตซึ่งให้พลังงาน
-
วิตามินและแร่ธาตุ: แป้งเค้กและผงโกโก้มีวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น เหล็ก โพแทสเซียม และวิตามินบี
-
สารต้านอนุมูลอิสระ: ผงโกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
เรื่องราวสนุกๆ เกี่ยวกับเค้กเรดเวลเวต
-
เค้กวันเกิดที่ลืมไม่ลง: หญิงสาวคนหนึ่งสั่งเค้กวันเกิดสีแดงก่ำให้เพื่อนสนิท แต่เมื่อเค้กมาถึง กลับพบว่าเป็นเค้กสีชมพูเข้มแทน เธอลืมบอกพนักงานทำขนมว่าเธอต้องการเค้กเรดเวลเวต ผลก็คือวันเกิดของเพื่อนเธอช่างน่าจดจำยิ่งกว่าที่คิด
-
เค้กที่ถูกมองผิด: เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งเปิดร้านใหม่และวางเค้กเรดเวลเวตไว้ในตู้โชว์ที่หน้าร้าน ลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาในร้านและสั่งเค้กเรดเวลเวต เมื่อเธอได้รับเค้ก เธอรู้สึกประหลาดใจที่มันไม่ใช่เค้กแครอทอย่างที่เธอคิด
-
เค้กของคู่รัก: คู่รักคู่หนึ่งตัดสินใจทำเค้กเรดเวลเวตร่วมกัน แต่พวกเขาใช้สูตรที่แตกต่างกัน ฝ่ายชายใช้สูตรแบบดั้งเดิม ในขณะที่ฝ่ายหญิงใช้สูตรที่เพิ่มสตรอว์เบอร์รีลงไป ผลลัพธ์ก็คือเค้กสองชิ้นที่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งสองชิ้นก็อร่อยเยี่ยมในแบบของตัวเอง
ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง
-
ใส่สีผสมอาหารมากเกินไป: การใส่สีผสมอาหารมากเกินไปอาจทำให้เค้กมีรสชาติขม
-
อบเค้กนานเกินไป: การอบเค้กนานเกินไปอาจทำให้เค้กแห้งและแข็ง
-
ไม่ทาครีมชีสฟรอสติ้ง: ครีมชีสฟรอสติ้งช่วยเพิ่มความครีมมี่และความสมบูรณ์แบบให้กับเค้กเรดเวลเวต
-
ตกแต่งเค้กด้วยผลไม้สด: ผลไม้สดอาจทำให้เค้กเปียกและเสียเร็ว
วิธีทำเค้กเรดเวลเวตแบบทีละขั้นตอน
ส่วนผสม:
สำหรับเค้ก:
- แป้งเค้ก 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 3/4 ถ้วยตวง
- ผงโกโก้ดิบ 3/4 ถ้วยตวง
- บัตเตอร์ 1 ถ้วยตวง (นุ่ม)
- ไข่ใหญ่ 2 ฟอง
- บัตเทอร์มิลค์ 1 ถ้วยตวง
- วินิการ 1 ช้อนโต๊ะ
- สีผสมอาหารสีแดง 1-2 ช้อนชา
สำหรับครีมชีสฟรอสติ้ง:
- ครีมชีส 8 ออนซ์ (นุ่ม)
- เนย 1/2 ถ้วยตวง (นุ่ม)
- น้ำตาลไอซิ่ง 2 ถ้วยตวง
- นม 2-4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
สำหรับเค้ก:
- อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
- เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 20x30 เซนติเมตร โดยทาไขมันและโรยแป้ง
- ในชามใบใหญ่ ผสมแป้ง น้ำตาล และผงโกโก้
- ในชามแยกต่างหาก ตีเนยให้ขึ้นฟูจนเป็นสีอ่อน
- ทีละฟองโดยค่อยๆ เติมไข่ลงในเนย ตีจนเข้ากันดี
- ในชามแยกอีกใบ ผสมบัตเทอร์มิลค์และวินิการ
- สลับกันเพิ่มส่วนผสมเปียกและส่วนผสมแห้งลงในชามผสมเนย ตีให้เข้ากันแต่ไม่มากเกินไป
- เพิ่มสีผสมอาหารและผสมจนเป็นสีแดงก่ำ
- เทส่วนผสมลงในพิมพ์เค้กและอบเป็นเวลา 25-30 นาที หรือจนเมื่อแทงไม้จิ้มฟันลงไปแล้วออกมาสะอาด
- พักเค้กไว้ในพิมพ์ให้เย็นประมาณ 10 นาทีก่อนนำออกจากพิมพ์แล้วพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท
สำหรับครีมชีสฟรอสติ้ง:
- ในชามขนาดกลาง ตีครีมชีสและเนยด้วยความเร็วปานกลางจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ค่อยๆ เติมน้ำตาลไอซิ่งในข