Position:home  

เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เพื่อก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจและสังคมเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายในและภายนอกอย่างหนักหน่วง รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลช่วยเหลือประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีรายได้น้อยและผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา

หนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการออกมาเพื่อเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ลดผลกระทบด้านรายได้ที่ลดลง และช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถดำรงชีพได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

สถิติผู้ประกันตนตามมาตรา 33

จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ณ เดือนกรกฎาคม 2565 พบว่ามีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งสิ้น 11,602,343 คน คิดเป็น 80% ของผู้ประกันตนทั้งหมดในระบบประกันสังคม

ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ส่วนใหญ่มีลักษณะดังนี้

เยียวยาผู้ประกันตน ม.33

  • อายุระหว่าง 15-44 ปี
  • เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง
  • มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท

ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาในภาวะที่ยากลำบากนี้

มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33

มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่รัฐบาลได้ออกมาตรการออกมา มีรายละเอียดดังนี้

  • เงินเยียวยาเป็นรายเดือน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินเยียวยาเป็นรายเดือนเป็นระยะเวลา 3 เดือน (กันยายน - พฤศจิกายน 2565) โดยจะได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท

    เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เพื่อก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

  • จ่ายสมทบเงินสมทบให้แก่กองทุนประกันสังคม รัฐบาลจะจ่ายสมทบเงินสมทบให้แก่กองทุนประกันสังคมในส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ตุลาคม - ธันวาคม 2565) ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกันตนและยังช่วยให้ผู้ประกันตนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากประกันสังคมต่อไป

เงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการเยียวยา

เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการเยียวยาดังกล่าว ผู้ประกันตนจะต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในวันที่ 30 กันยายน 2565
  • ชำระเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนติดต่อกันก่อนวันขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
  • ไม่เป็นผู้ได้รับบำเหน็จตกเบิก หรือกำลังรับสิทธิ์กรณีว่างงานอยู่

การลงทะเบียนรับสิทธิประโยชน์

ผู้ประกันตนที่ประสงค์จะลงทะเบียนรับสิทธิประโยชน์จากมาตรการเยียวยานี้ สามารถลงทะเบียนได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยการลงทะเบียนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

11,602,343 คน

การจ่ายเงินเยียวยา

  • เงินเยียวยาสำหรับเดือนกันยายน จะเริ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th และแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
  • เงินเยียวยาสำหรับเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จะโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยอัตโนมัติในวันที่ 15 ตุลาคม 2565 และ 15 พฤศจิกายน 2565 ตามลำดับ

ประโยชน์ของการรับเงินเยียวยา

มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 นี้มีประโยชน์ต่อผู้ประกันตนในหลายๆ ด้าน ได้แก่

  • ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
  • ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
  • ลดความเสี่ยงที่จะตกงานหรือต้องหยุดประกอบอาชีพ
  • ช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถดำรงชีพได้อย่างต่อเนื่อง
  • ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก

ผลกระทบของมาตรการเยียวยา

มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 คาดว่าจะช่วยเหลือผู้ประกันตนได้จำนวนมากและมีผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม ได้แก่

  • ช่วยรักษาระดับอุปสงค์ในประเทศ
  • ช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดแรงงาน
  • ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

สรุป

มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นมาตรการที่จำเป็นและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน รัฐบาลหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกันตน และทำให้ผู้ประกันตนสามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้

ตารางที่ 1: สถิติผู้ประกันตนตามมาตรา 33

ข้อมูล จำนวน
จำนวนผู้ประกันตน 11,602,343 คน
สัดส่วนของผู้ประกันตนทั้งหมด 80%
เพศชาย 6,321,172 คน
เพศหญิง 5,281,171 คน
อายุระหว่าง 15-44 ปี 9,385,372 คน
รายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท 10,104,265 คน

ตารางที่ 2: สิทธิประโยชน์จากมาตรการเยียวยา

สิทธิประโยชน์ รายละเอียด
เงินเยียวยาเป็นรายเดือน 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
การจ่ายสมทบเงินสมทบให้แก่กองทุนประกันสังคม รัฐบาลจ่ายสมทบให้ 3 เดือน (ตุลาคม - ธันวาคม 2565)

ตารางที่ 3: เงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์

เงื่อนไข คุณสมบัติ
สถานะผู้ประกันตน ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในวันที่ 30 กันยายน 2565
การชำระเงินสมทบ ชำระเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนติดต่อกัน
สถานะการรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ไม่รับบำเหน็จตกเบิกหรือสิทธิ์ว่างงานอยู่

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ

  • วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ: ใช้เงินเยียวยาอย่างประหยัดและจ่ายในสิ่งจำเป็นเท่านั้น
  • ออมเงินสำรอง: พยายามออมเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ในอนาคต
  • ลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม: หาทางเพิ่มรายได้จากช่องทางอื่นๆ เช่น การทำงานพิเศษหรือการ

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss