Position:home  

ซูชิคันดะ ความอร่อยที่เป็นมากกว่าแค่ปลาดิบ

ซูชิชื่อดังจากย่านทตโตริตอนกลางของญี่ปุ่น ที่มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครทั้งหน้าตาและรสชาติ จนทำให้ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างติดใจ

ซูชิคันดะ เป็นซูชิประเภทหน้าเปิดที่ไม่ห่อด้วยสาหร่าย มีลักษณะเป็นข้าวปั้นคำเล็กๆ โปะหน้าด้วยเครื่องต่างๆ เช่น ปลาทูน่าแช่โชยุ ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ ไข่หวาน และอื่นๆ

จุดเด่นสำคัญของซูชิคันดะอยู่ที่การหมักปลาในโชยุเป็นเวลานานหลายชั่วโมงจนได้รสชาติที่เข้มข้นและนุ่มละมุน เมื่อนำมาปั้นเป็นซูชิจะได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว พร้อมกับคำข้าวปั้นขนาดพอดีคำที่ทานง่าย

ซูชิคันดะมีต้นกำเนิดมาจากเมืองคันดะ จังหวัดทตโตริ เมื่อสมัยเอโดะ โดยชาวประมงในพื้นที่จะนำปลาที่จับได้มาหมักโชยุเพื่อถนอมอาหารไว้ทานเองในช่วงที่ออกเรือไปประมงหลายวัน จนกระทั่งกลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองและได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น

kanda sushi


ซูชิคันดะ ความอร่อยที่เป็นมากกว่าแค่ปลาดิบ

ปัจจุบัน ซูชิคันดะได้กลายเป็นเมนูยอดนิยมในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, และเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากและหน้าตาที่สวยงาม จึงเหมาะสำหรับทั้งการทานเป็นอาหารจานหลักหรือเป็นกับแกล้มก็ได้

ประโยชน์ของการทานซูชิ

การทานซูชิเป็นประจำนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เนื่องจากซูชิประกอบด้วยส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น

  • ปลา อุดมไปด้วยโปรตีน, โอเมก้า 3, วิตามินดี และแร่ธาตุต่างๆ ช่วยบำรุงสมอง, หัวใจ และสายตา
  • ข้าว เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน
  • ผักต่างๆ เช่น แตงกวา, แครอท, หัวไชเท้า มีวิตามิน, แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหาร

นอกจากนี้ ซูชิยังมีปริมาณไขมันต่ำและแคลอรีไม่สูงมาก จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือรักษาสุขภาพ

ประโยชน์ของการทานซูชิ

โต๊ะที่ 1: ปริมาณสารอาหารในซูชิ 1 คำ

สารอาหาร ปริมาณ
โปรตีน 5-7 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 10-15 กรัม
ไขมัน 1-2 กรัม
แคลอรี 50-70 แคลอรี
โอเมก้า 3 100-200 มิลลิกรัม
วิตามินดี 10-20 IU
แคลเซียม 50-70 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 2-3 มิลลิกรัม

กลยุทธ์ในการเลือกซูชิคันดะที่อร่อย

เพื่อให้ได้ซูชิคันดะที่อร่อยที่สุด ควรเลือกจากร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและเชฟที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ลักษณะปลา ควรมีสีสันสดใส เนื้อแน่น เงา และไม่มีกลิ่นคาวปลา
  • รสชาติปลา ควรมีรสชาติเข้มข้น หวานนิดๆ และไม่เค็มจนเกินไป
  • การหมัก ควรหมักในโชยุเป็นเวลานานอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หากยิ่งหมักนานยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น
  • ข้าว ควรเป็นข้าวญี่ปุ่นที่หุงสุกกำลังดี ไม่แฉะหรือแข็งจนเกินไป
  • หน้าตา ควรจัดวางได้อย่างสวยงามและน่ารับประทาน

โต๊ะที่ 2: สถิติการบริโภคซูชิในประเทศต่างๆ

ประเทศ ปริมาณซูชิที่บริโภคต่อคน (กิโลกรัม/ปี)
ญี่ปุ่น 44
อเมริกา 12
อังกฤษ 8
แคนาดา 7
ออสเตรเลีย 5

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับซูชิคันดะ

  • ซูชิคันดะเป็นซูชิประเภทเดียวที่ไม่ห่อด้วยสาหร่าย
  • ซูชิคันดะมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ซูชิคิซุเกะ
  • ซูชิคันดะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 3 วัน
  • ซูชิคันดะเหมาะสำหรับการทานคู่กับโชยุและวาซาบิ

โต๊ะที่ 3: ชนิดของปลาที่นิยมใช้ทำซูชิคันดะ

ชนิดปลา ชื่อญี่ปุ่น
ปลาทูน่า マグロ (มะกุโระ)
ปลาแซลมอน サーモン (ซาโมน)
ปลาฮามาจิ ハマチ (ฮะมะจิ)
ปลาซาบะ サバ (ซะบะ)
ปลาซันมะ サンマ (ซันมะ)

เรื่องราวเกี่ยวกับซูชิคันดะ

เรื่องที่ 1: เผลอทานซูชิจนลืมตัว

ครั้งหนึ่ง ขณะที่ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวที่เมืองทตโตริและได้ลองทานซูชิคันดะเป็นครั้งแรกด้วยความประทับใจในรสชาติที่อร่อยมาก เขาก็เผลอทานเข้าไปหลายคำจนลืมตัวไปว่าตัวเองสั่งมาแค่ 10 คำ พอรู้ตัวอีกทีก็ทานไปเกินมาถึง 5 คำแล้ว เขาจึงรีบขอโทษเจ้าของร้านและขอจ่ายเงินเพิ่ม แต่เจ้าของร้านใจดีไม่คิดเงินเพิ่ม โดยบอกว่าเป็นการเติมเต็มความสุขให้กับลูกค้า

เรื่องที่ 2: สั่งซูชิคันดะผิดเฉย

อีกครั้งหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปทานข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง และได้สั่งซูชิคันดะเป็นครั้งแรก แต่ด้วยความไม่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่น เขาจึงสั่งผิดเป็นซูชิหน้าปลาไหล เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เขาจึงงงมาก เพราะสิ่งที่ได้มาไม่ใช่หน้าปลาไหลที่เขาเคยเห็น แต่เป็นข้าวปั้นหน้าปลาทูน่า เขาจึงเรียกพนักงานมาสอบถาม พนักงานจึงอธิบายให้ฟังว่าเขาสั่งผิด จึงได้เปลี่ยนให้เป็นซูชิหน้าปลาไหลตามที่ต้องการ

เรื่องที่ 3: กินซูชิคันดะจนหมดตัว

ชายหนุ่มคนหนึ่งติดใจซูชิคันดะมากจนกินทุกวัน วันละหลายมื้อ จนในที่สุดเงินเก็บของเขาก็หมดลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมเลิกกิน จนสุดท้ายต้องไปขอยืมเงินเพื่อนมาซื้อกิน ซูชิคันดะจึงกลายเป็นอาหารจานโปรดที่พาให้เขาล้มละลาย

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องราว

  • การทานอาหารอร่อยๆ มากจนเกินไปอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพได้
  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ทานอยู่ให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
  • การใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายอาจนำมาซึ่งปัญหาทางการเงินได้

คำถามที่พบบ่อย

  1. ซูชิคันดะต่างจากซูชิประเภทอื่นอย่างไร

ตอบ: ซูชิคันดะเป็นซูชิประเภทหน้าเปิดที่ไม่ห่อด้วยสาหร่าย ในขณะที่ซูชิประเภทอื่นๆ มักจะห่อด้วยสาหร่าย

  1. ซูชิคันดะมีต้นกำเนิดมาจากไหน

ตอบ: ซูชิคันดะมีต้นกำเนิดมาจากเมืองค

ซูชิคันดะ

Time:2024-09-07 22:43:48 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss