บทเรียนชีวิตจากละครเรื่อง "กรงกรรม" EP.1: กฎแห่งกรรมที่ตามสนอง

ละครเรื่อง "กรงกรรม" เป็นละครที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ "จุฬามณี" ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เขียนถึงชีวิตของครอบครัว "โสภณกุล" ที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากมากมาย โดยเฉพาะ กฎแห่งกรรม ที่ตามสนองผู้ที่ทำผิด

EP.1: บาปที่ก่อไว้ย่อมตามสนอง

ในตอนแรกของละคร เราจะได้รู้จักกับครอบครัวโสภณกุล ซึ่งประกอบด้วย ย้อย (รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช) แม่ที่ขยันขันแข็ง แสน (รับบทโดย ใหม่ เจริญปุระ) ลูกสาวคนโตที่สวยแต่เอาแต่ใจตัวเอง จรวย (รับบทโดย น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) ลูกสาวคนกลางที่เรียบร้อยและขยัน และอาใช้ (รับบทโดย เก้า จิรายุ ละอองมณี) ลูกชายคนสุดท้องที่เป็นเด็กพิเศษ

ชีวิตของครอบครัวโสภณกุลเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อย้อยได้ไปทำงานเป็นแม่ครัวในบ้านของพระยาเพชรพิไชย (รับบทโดย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ) พระยาที่มีนิสัยเจ้าชู้และชอบใช้กำลัง ในขณะที่ย้อยทำงานอยู่ในบ้านพระยาเพชรพิไชย เธอก็ได้พบกับอาญามา (รับบทโดย เคลลี่ ธนพัฒน์) ลูกชายคนโตของพระยาเพชรพิไชย อาญามาเป็นหนุ่มหนุ่มรูปหล่อและนิสัยดี อาญามาตกหลุมรักย้อยตั้งแต่แรกเห็น และทั้งสองก็ได้มีอะไรกันในที่สุด

เมื่อพระยาเพชรพิไชยรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็โกรธมาก จึงได้จับกุมตัวอาญามาไปคุมขัง และออกคำสั่งให้ย้อยแต่งงานกับ จรัญ (รับบทโดย อัครัฐ นิมิตชัย) ลูกชายอีกคนของพระยาเพชรพิไชยที่เป็นคนขี้เหล้าและชอบเล่นการพนัน ย้อยจำใจต้องแต่งงานกับจรัญเพื่อปกป้องอาญามา แต่ชีวิตหลังแต่งงานของเธอกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก เพราะจรัญทำร้ายร่างกายและจิตใจเธออยู่เสมอ

กฎแห่งกรรมที่ตามสนอง

การกระทำของพระยาเพชรพิไชยที่ใช้กำลังกับย้อย ถือเป็นการกระทำที่บาป เมื่อกระทำบาปแล้ว พระยาเพชรพิไชยก็ต้องรับผลกรรมจากการกระทำของตัวเอง

ไม่นานหลังจากที่ย้อยแต่งงานกับจรัญ พระยาเพชรพิไชยก็ล้มป่วยและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จรัญได้ตกเป็นจำเลยในคดีฆาตกรรมพระยาเพชรพิไชย และถูกตัดสินจำคุกในที่สุด

ส่วนอาญามาที่ถูกคุมขังในคุกนั้น ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนนักโทษ จนกระทั่งสามารถหลบหนีออกจากคุกได้ อาญามาได้ติดตามย้อยไปยังบ้านที่เธออาศัยอยู่ และทั้งสองก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันในที่สุด

บทเรียนที่ได้จาก EP.1

EP.1 ของละคร "กรงกรรม" สอนให้เรารู้ว่า กฎแห่งกรรมนั้นมีจริง ใครที่ทำความชั่วก็จะต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเอง ไม่ช้าก็เร็ว

นอกจากนี้ละครยังสอนให้เรารู้ว่า การให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าเราจะถูกกระทำอย่างไรก็ตาม เราก็ควรที่จะให้อภัยผู้ที่กระทำความผิดต่อเรา เพื่อที่จะไม่ให้ความโกรธและความเกลียดชังมาทำลายชีวิตของเรา

ตารางผลของการกระทำ

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงผลกรรม

• หลีกเลี่ยงการทำความชั่ว
• ทำความดีให้มากขึ้น
• ให้อภัยผู้ที่กระทำความผิดต่อเรา
• หมั่นทำสมาธิและภาวนา

เคล็ดลับและเทคนิค

• ฝึกฝนการให้อภัยทุกวัน
• เรียนรู้ที่จะปล่อยวางความโกรธและความเกลียดชัง
• หาเวลาอยู่กับตัวเองและทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองสงบสุข

เรื่องราวที่น่าสนใจ

• ชายคนหนึ่งที่ถูกขโมยเงินไปจำนวนมาก ได้ติดตามขโมยไปจนถึงบ้าน ขโมยได้ชักปืนออกมาขู่ แต่ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาต่อสู้กับขโมยจนกระทั่งสามารถจับขโมยได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็พาขโมยไปส่งตำรวจและให้อภัยขโมยในที่สุด
• หญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกแฟนทิ้ง ได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องและร้องไห้ทุกวัน เพื่อนๆ ของเธอได้พยายามเข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจ แต่เธอก็ไม่ยอมฟัง ในที่สุดเธอได้ตัดสินใจออกจากห้องและไปทำงานที่เธอรัก จากนั้นเธอก็ได้พบกับชายหนุ่มคนใหม่ที่รักเธออย่างจริงใจ
• นักธุรกิจคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้บริจาคเงินให้กับการกุศลเป็นจำนวนมาก เขาได้ก่อสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลให้กับผู้ยากไร้ และได้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย จากนั้นเขาก็ได้ประสบความสำเร็จในธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง

• การจมอยู่กับความโกรธและความเกลียดชัง
• การคิดแก้แค้นผู้ที่กระทำความผิดต่อเรา
• การทำความชั่วเพื่อตอบแทนความชั่ว

บทสรุป

ละครเรื่อง "กรงกรรม" สอนให้เรารู้ว่า ทุกการกระทำย่อมมีผล หากเราทำดี เราก็จะได้รับผลดี แต่หากเราทำชั่ว เราก็จะได้รับผลชั่ว

เราควรที่จะมีชีวิตอยู่ตามหลักของ กฎแห่งกรรม หลีกเลี่ยงการทำความชั่ว และทำความดีให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับผลกรรมจากการกระทำของตัวเองในภายหลัง

นอกจากนี้เราควรที่จะให้อภัยผู้ที่กระทำความผิดต่อเรา เพื่อที่จะไม่ให้ความโกรธและความเกลียดชังมาทำลายชีวิตของเรา