Position:home  

ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฟรี ฉีดวัคซีนวันนี้เพื่อสุขภาพในวันข้างหน้า

รู้จักมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) โดยไวรัสชนิดนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มที่ก่อให้เกิดหูด (low-risk types) และกลุ่มที่ก่อให้เกิดมะเร็ง (high-risk types) โดยสายพันธุ์ของ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุดคือ HPV-16 และ HPV-18 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของผู้ป่วยทั้งหมด

มะเร็งปากมดลูกอันตรายอย่างไร

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านมในกลุ่มผู้หญิงไทยทุกภูมิภาค โดยข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้ว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกใหม่มากกว่า 12,000 รายต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 4,000 รายต่อปี

ฉีดวัคซีน มะเร็งปากมดลูก ฟรี 2566

ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฟรี ฉีดวัคซีนวันนี้เพื่อสุขภาพในวันข้างหน้า

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนที่มีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยวัคซีนแต่ละชนิดสามารถป้องกันการติดเชื้อได้แตกต่างกันไป ดังนี้

  • Cervarix ป้องกันการติดเชื้อ HPV-16 และ HPV-18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่า 80%
  • Gardasil ป้องกันการติดเชื้อ HPV-16, HPV-18, HPV-6 และ HPV-11 ซึ่งสายพันธุ์ HPV-6 และ HPV-11 ก่อให้เกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก
  • Gardasil 9 ป้องกันการติดเชื้อ HPV-16, HPV-18, HPV-6, HPV-11, HPV-31, HPV-33, HPV-45, HPV-52 และ HPV-58 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องถึง 90%

ใครควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ตารางที่ 1: ความชุกของมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแนะนำให้ฉีดในกลุ่มต่อไปนี้

  • กลุ่มนักเรียนหญิงชั้น ป.5-6 ตามโครงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลให้ฉีดฟรี
  • ผู้หญิงอายุ 9-26 ปี ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เพราะการฉีดวัคซีนจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดหากฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์
  • ผู้หญิงอายุ 27-45 ปี ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน หรือฉีดไม่ครบตามกำหนด สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของรัฐและเอกชน โดยอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

ประสิทธิภาพของวัคซีน

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีประสิทธิภาพสูง โดยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้ว่า วัคซีนสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้มากถึง 90% ในกลุ่มผู้หญิงที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนด

ผลข้างเคียงของวัคซีน

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกโดยทั่วไปปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น

  • ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด
  • ไข้ต่ำ
  • ปวดหัว
  • คลื่นไส้
  • เวียนศีรษะ

ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 1-2 วัน

ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฟรี 2566

เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างทั่วถึง กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแห่งชาติ โดยเปิดให้ฉีดวัคซีนฟรีสำหรับนักเรียนหญิงชั้น ป.5-6 และผู้หญิงอายุ 9-26 ปี ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ สามารถติดต่อรับบริการได้ที่สถานพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ รวมถึงโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ

ขั้นตอนการฉีดวัคซีนฟรี

ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฟรี ฉีดวัคซีนวันนี้เพื่อสุขภาพในวันข้างหน้า

  1. ติดต่อสอบถามที่สถานพยาบาลของรัฐหรือโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ
  2. ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโดยนำบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย
  3. รับการคัดกรองสุขภาพก่อนฉีดวัคซีน
  4. ฉีดวัคซีนตามกำหนดการ โดยทั่วไปจะฉีด 2-3 เข็ม ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน

ข้อควรระวังก่อนฉีดวัคซีน

  • แจ้งแพทย์หากแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน
  • แจ้งแพทย์หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

  • ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้สูงถึง 90%
  • ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
  • ป้องกันการเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก
  • ช่วยให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี และลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งในอนาคต

การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคร้ายนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงอายุน้อยที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หากคุณอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีน อย่ารอช้า รีบติดต่อสถานพยาบาลเพื่อรับการฉีดวัคซีนฟรีตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต

ตารางที่ 1: ความชุกของมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย

ภูมิภาค อัตราป่วยต่อประชากร 100,000 คน
ภาคเหนือ 21.3
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18.5
ภาคกลาง 15.2
ภาคใต้ 13.4
กรุงเทพมหานคร 12.9

ที่มา: สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ตารางที่ 2: การเปรียบเทียบวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

วัคซีน สายพันธุ์ HPV ที่ป้องกัน จำนวนเข็ม ช่วงอายุที่แนะนำ
Cervarix HPV-16, HPV-18 3 เข็ม 9-26 ปี
Gardasil HPV-16, HPV-18, HPV-6, HPV-11 2-3 เข็ม 9-26 ปี
Gardasil 9 HPV-16, HPV-18, HPV-6, HPV-11, HPV-31, HPV-33, HPV-45, HPV-52, HPV-58 2-3 เข็ม 9-45 ปี

หมายเหตุ: จำนวนเข็มที่ฉีดขึ้นอยู่กับอายุและประวัติการฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss