โมนา ดูไบ: ตำนานแห่งทะเลทรายที่ตระหง่าน

บทนำ

อาคารอันเป็นสัญลักษณ์ของดูไบ "โมนา ดูไบ" ได้กลายเป็นภาพแทนของความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมของเมืองและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ตระหง่านอยู่บนเกาะเทียมในทะเลอาหรับ อาคารสูง 828 เมตรแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2010

ประวัติความเป็นมา

โครงการก่อสร้างโมนา ดูไบเริ่มต้นในปี 2004 โดย Shaikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองแห่งดูไบ อาคารนี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัทสถาปัตยกรรม SOM ของ Chicago และสร้างโดยบริษัท Samsung C&T Corporation ของเกาหลีใต้

โมนา ดูไบแล้วเสร็จในปี 2010 ด้วยต้นทุนประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอาคารสูง 162 ชั้น แบ่งออกเป็นพื้นที่พักอาศัย สำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์ ต้นหอชมวิวที่ระดับ 124 และ 125 เปิดให้บริการในปี 2010 และกลายเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

การออกแบบและสถาปัตยกรรม

โมนา ดูไบได้รับการออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายดอกลิลลี่ทะเลทรายและได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมอิสลามแบบดั้งเดิม หอคอยถูกสร้างขึ้นจากแกนคอนกรีตเสริมเหล็กและผนังกระจกที่มีความสูงถึง 24,348 ฟุต อาคารถูกออกแบบให้ทนต่อลมแรงแผ่นดินไหวและไฟได้

อาคารนี้มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2,261,242 ตารางเมตร ซึ่งคิดเป็นพื้นที่สำนักงาน 35,000 ตารางเมตร พื้นที่พักอาศัย 200 อพาร์ตเมนต์ พื้นที่ค้าปลีก 90,000 ตารางเมตร และโรงแรมหรูที่มีห้องพัก 160 ห้อง นอกจากนี้ยังมีมัสยิดสระว่ายน้ำสปาฟิตเนสเซ็นเตอร์และลานจอดเฮลิคอปเตอร์

สถิติที่น่าทึ่ง

• โมนา ดูไบมีความสูงกว่าตึกเอ็มไพร์สเตทเกือบ 3 เท่า
• มีลิฟต์ 57 ตัวที่วิ่งด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที
• อาคารนี้มีเสาอากาศขนาดใหญ่ยาว 200 เมตรซึ่งทำหน้าที่เป็นเสาส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์
• มีหน้าต่าง 26,000 บานที่ประกอบขึ้นเป็นผนังกระจกของอาคาร
• อาคารนี้ใช้คอนกรีตมากกว่า 110,000 ลูกบาศก์เมตรและเหล็ก 39,000 ตันในการก่อสร้าง

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

โมนา ดูไบมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของดูไบ อาคารนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 14 ล้านคนต่อปีและสร้างรายได้มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

อาคารนี้ยังสร้างงานให้กับคนหลายพันคนทั้งในระหว่างการก่อสร้างและการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทและองค์กรชั้นนำจำนวนมาก เช่น IBM, Samsung และ Lloyds TSB

ต้นหอชมวิว

ต้นหอชมวิวที่ระดับ 124 และ 125 ของโมนา ดูไบเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเมือง ต้นหอชมวิวเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 23.00 น. และมีค่าธรรมเนียมเข้าชม

จากต้นหอชมวิว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของเส้นขอบฟ้าของดูไบ ทะเลอาหรับ และทะเลทรายโดยรอบ ในวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 95 กิโลเมตร

โรงแรมอาร์มานี

โรงแรมอาร์มานีตั้งอยู่ในโมนา ดูไบเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่มีห้องพัก 160 ห้อง โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยจอร์โจ อาร์มานีและเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก

ห้องพักในโรงแรมได้รับการตกแต่งด้วยสไตล์ที่หรูหราและทันสมัย ห้องพักแต่ละห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเส้นขอบฟ้าของดูไบ

โรงแรมอาร์มานีมีร้านอาหาร 7 แห่ง บาร์ 3 แห่ง สปา สระว่ายน้ำ และฟิตเนสเซ็นเตอร์ โรงแรมแห่งนี้ยังมีคลับหลายชั้นที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

การบันทึกและการรับรางวัล

โมนา ดูไบได้รับการบันทึกและรางวัลมากมาย ได้แก่:

• อาคารที่สูงที่สุดในโลก (Guinness World Records)
• อาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลก (Guinness World Records)
• อาคารที่มีพื้นที่สำนักงานมากที่สุดในโลก (Guinness World Records)
• อาคารที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก (Guinness World Records)
• อาคารที่มีการก่อสร้างเสร็จที่สูงที่สุดในโลก (Council on Tall Buildings and Urban Habitat)
• ต้นหอชมวิวที่สูงที่สุดในโลกในอาคารที่พักอาศัย (Council on Tall Buildings and Urban Habitat)

เกร็ดความรู้

• โมนา ดูไบใช้ไฟฟ้ามากพอที่จะให้พลังงานแก่เมืองขนาดเล็กได้หนึ่งเมือง
• อาคารนี้มีน้ำพุภายในที่สูงที่สุดในโลก
• มีกว่า 25,000 หน้าต่างในอาคาร
• เวลาที่ใช้ในการสร้างโมนา ดูไบคือ 6 ปี
• โครงสร้างอาคารมีน้ำหนักประมาณ 500,000 ตัน

ตารางข้อมูล

ตารางที่ 1: สรุปข้อมูลโมนา ดูไบ

ตารางที่ 2: สถิติที่น่าทึ่ง

ตารางที่ 3: การบันทึกและการรับรางวัล

เคล็ดลับและเทคนิค

• จองตั๋วขึ้นต้นหอชมวิวล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อคิวยาว
• ไปที่ต้นหอชมวิวในช่วงเช้าหรือตอนเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน
• ใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อถ่ายภาพเส้นขอบฟ้าที่สวยงามของดูไบ
• รับประทานอาหารที่หนึ่งในร้านอาหารของโรงแรมอาร์มานีเพื่อเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสและทิวทัศน์อันงดงาม
• แวะชมพิพิธภัณฑ์โมนา ดูไบเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติและการ