Position:home  

ค่าจดจำนอง 2567: ก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในยุคดอกเบี้ยปรับตัวสูง

ค่าจดจำนองนับเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งในปี 2567 นี้ อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าจดจำนองในปี 2567 และแนวทางการก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในยุคที่อัตราดอกเบี้ยผันผวน

อัตราดอกเบี้ยในปี 2567: แนวโน้มขาขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2567 จะอยู่ที่ 1.25-1.50% ซึ่งสูงกว่าปี 2566 ที่อยู่ที่ 0.50% แนวโน้มนี้สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

ผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นต่อค่าจดจำนอง

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้ค่าจดจำนองสูงขึ้นตามไปด้วย ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยโดยอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (LTV) ซึ่งมักจะปรับตัวขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ตัวอย่างการคำนวณค่าจดจำนอง

มาคำนวณค่าจดจำนองโดยสมมติว่า

ค่าจดจํานอง 2567

ค่าจดจำนอง 2567: ก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในยุคดอกเบี้ยปรับตัวสูง

  • ราคาบ้าน: 3 ล้านบาท
  • เงินดาวน์: 20% (600,000 บาท)
  • อัตราดอกเบี้ย: 4.50%
  • ระยะเวลาผ่อน: 30 ปี

ปีที่ 1

  • ยอดหนี้คงเหลือ: 2,400,000 บาท
  • ดอกเบี้ย: 2,400,000 x 4.50% = 108,000 บาท
  • เงินต้น: 252,000 บาท
  • ค่าจดจำนองรายเดือน: (108,000 + 252,000) / 12 = 28,500 บาท

ปีที่ 10

อัตราดอกเบี้ยในปี 2567: แนวโน้มขาขึ้น

  • ยอดหนี้คงเหลือ: 1,560,000 บาท
  • ดอกเบี้ย: 1,560,000 x 4.50% = 70,200 บาท
  • เงินต้น: 297,800 บาท
  • ค่าจดจำนองรายเดือน: (70,200 + 297,800) / 12 = 28,250 บาท

ปีที่ 30

  • ยอดหนี้คงเหลือ: 0 บาท
  • ดอกเบี้ย: 0 บาท
  • เงินต้น: 297,800 บาท
  • ค่าจดจำนองรายเดือน: 297,800 / 12 = 24,817 บาท

จะเห็นได้ว่าค่าจดจำนองจะสูงขึ้นในช่วงแรกๆ และลดลงในช่วงปลายๆ ของระยะเวลาผ่อนชำระ

แนวทางก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในยุคดอกเบี้ยสูง

ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่การก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในปี 2567 ยังเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ โดยมีแนวทางดังนี้

ปีที่ 1

  1. วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ: ประเมินรายรับ-รายจ่าย และความสามารถในการชำระหนี้อย่างแม่นยำ จัดทำงบประมาณที่เหมาะสมและมีวินัยทางการเงิน
  2. เตรียมเงินดาวน์ให้มากขึ้น: เงินดาวน์ที่สูงขึ้นจะช่วยลดมูลค่าเงินกู้และค่าจดจำนองในระยะยาว
  3. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายๆ ธนาคาร: เลือกธนาคารที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้และมีเงื่อนไขการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความต้องการ
  4. พิจารณาสินเชื่อที่รัฐบาลสนับสนุน: รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านรายใหม่ เช่น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ (ธอส.) หรือโครงการบ้านล้านหลัง
  5. ซื้อบ้านมือสองหรือบ้านหลังเล็ก: ราคาที่ต่ำกว่าของบ้านมือสองหรือบ้านหลังเล็กจะช่วยลดค่าจดจำนองได้ในระยะยาว

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อบ้านในยุคดอกเบี้ยสูง

ข้อดี

  • เป็นการลงทุนที่สร้างมูลค่าในระยะยาว
  • มีโอกาสผ่อนชำระหมดภายในเวลาที่กำหนด
  • ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน

ข้อเสีย

  • ค่าจดจำนองที่สูงขึ้นอาจส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน
  • ความเสี่ยงจากการผ่อนชำระไม่ตรงเวลานำไปสู่การยึดทรัพย์
  • มูลค่าบ้านที่อาจไม่เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์

สรุป

ค่าจดจำนองในปี 2567 มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวในทิศทางเดียวกันทั่วโลก โดยการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ การเตรียมเงินดาวน์ที่มากขึ้น และการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายๆ ธนาคาร จะช่วยให้ผู้ซื้อบ้านสามารถก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านได้ในยุคที่อัตราดอกเบี้ยผันผวน หากพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ รวมถึงมีความพร้อมทางการเงิน การซื้อบ้านยังคงเป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ในปี 2567

ตารางเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ

ธนาคาร อัตราดอกเบี้ย 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5 ปี
ธนาคารกรุงเทพ 5.00% 5.50%
ธนาคารกสิกรไทย 5.15% 5.65%
ธนาคารไทยพาณิชย์ 5.20% 5.70%
ธนาคารกรุงไทย 5.30% 5.80%
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5.40% 5.90%

ตารางแสดงผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยต่อค่าจดจำนอง

อัตราดอกเบี้ย ค่าจดจำนองรายเดือน (ปีที่ 1)
4.50% 28,500 บาท
5.00% 32,000 บาท
5.50% 35,500 บาท
6.00% 39,000 บาท

ตารางแสดงวิธีเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน

ขั้นตอน รายละเอียด
ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ตรวจสอบรายรับ-รายจ่าย หนี้สินที่มี และเครดิตสกอร์
เตรียมเงินดาวน์ โดยทั่วไปแล้วควรเตรียม 20-30% ของราคาบ้าน
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ติดต่อธนาคารต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้
พิจารณาสินเชื่อที่รัฐบาลสนับสนุน ตรวจสอบสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ซื้อบ้านรายใหม่ เช่น ธอส. หรือโครงการบ้านล้านหลัง
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ วิเคราะห์ราคาบ้านในพื้นที่ที่สนใจ และรับทราบแนวโน้มของตลาด

เรื่องเล่าแฝงข้อคิด

พ่อ vs ลูกสาว

พ่อ: "หนูจะซื้อบ้านตอนดอกเบี้ยสูงขนาดนี้เหรอ?"
ลูกสาว: "คุณพ่อก็ซื้อบ้านตอนดอกเบี้ยต่ำ แถมดอกเบี้ยขึ้นมาหลายรอบแล้ว แต่สุดท้ายบ้านคุณพ่อก็แพงขึ้นไม่ใช่เหรอคะ"

ข้อคิด: ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะ

Time:2024-09-05 11:59:32 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss