Position:home  

ปลูกฝี: เกราะป้องกันโรคร้ายที่จำเป็นสำหรับเด็กไทย

บทนำ

โรคติดเชื้อเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของเด็กไทย มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยและสามารถป้องกันได้ด้วยการ ปลูกฝี การปลูกฝีเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคติดเชื้อโดยการฉีดเชื้อที่อ่อนแอหรือเชื้อที่ตายแล้วเข้าสู่ร่างกาย โดยเชื้อเหล่านี้จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อสู้กับโรค หากในภายหลังมีการติดเชื้อโรคชนิดนั้นเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถจดจำและกำจัดเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหรือลดความรุนแรงของโรคลงได้

สถิติโรคติดเชื้อในเด็กไทย

ปลูกฝี

จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2564 มีผู้ป่วยโรคหัดในประเทศไทย 1,093 ราย โรคคางทูม 36,638 ราย และโรคหัดเยอรมัน 5,747 ราย ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าโรคติดเชื้อเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย และการปลูกฝีเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันโรคเหล่านี้

ประโยชน์ของการปลูกฝี

การปลูกฝีมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายยังมีภูมิต้านทานต่ำ การปลูกฝีสามารถช่วย:

  • ป้องกันการเกิดโรคติดเชื้อที่อันตรายได้ เช่น โรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน
  • ลดความรุนแรงของโรคหากเกิดการติดเชื้อ
  • ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ
  • ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และหูหนวก
  • ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในชุมชน

ตารางที่ 1: ประสิทธิภาพของวัคซีนปลูกฝี

โรค ประสิทธิภาพของวัคซีนหลังได้รับ 2 เข็ม
หัด 97%
คางทูม 88%
หัดเยอรมัน 97%

ตารางที่ 2: กำหนดการปลูกฝีสำหรับเด็กไทย

อายุ วัคซีน
9 เดือน วัคซีนรวมป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) เข็มที่ 1
4 ปี วัคซีนรวมป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) เข็มที่ 2

อาการข้างเคียงของการปลูกฝี

ปลูกฝี: เกราะป้องกันโรคร้ายที่จำเป็นสำหรับเด็กไทย

วัคซีนปลูกฝีโดยทั่วไปมีความปลอดภัยสูง อาการข้างเคียงที่อาจพบได้มักจะไม่รุนแรงและหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน ได้แก่:

  • ไข้ต่ำ
  • ปวดหรือบวมที่บริเวณฉีดวัคซีน
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน

ตารางที่ 3: ข้อควรระวังในการปลูกฝี

| ข้อควรระวัง |
|---|---|
| เด็กที่แพ้วเจลาติน ไข่ หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น นีโอมัยซินและสเตรปโตมัยซิน
| เด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็กที่เป็นมะเร็งหรือได้รับยาภูมิคุ้มกัน
| เด็กที่ตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
| เด็กที่ป่วยหนักหรือมีไข้สูง

เคล็ดลับในการดูแลเด็กหลังปลูกฝี

บทนำ

  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดวัคซีนเพื่อลดอาการปวดและบวม
  • ให้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน (สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป)
  • ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ
  • ให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ
  • สังเกตลักษณะอาการของเด็ก หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ลมพิษ หรือหายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์

เรื่องราวตัวอย่าง

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปลูกฝี:

  • เด็กชายอายุ 9 ขวบที่ไม่ได้รับการปลูกฝีเป็นโรคหัดรุนแรง เขาต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์และเกือบจะเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน
  • เด็กหญิงอายุ 4 ขวบที่ได้รับการปลูกฝีแล้วเป็นโรคคางทูม อาการของเธอไม่รุนแรงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน
  • หญิงสาววัย 25 ปีที่ไม่ได้รับการปลูกฝีเป็นโรคหัดเยอรมัน เธอตั้งครรภ์อยู่ในขณะนั้นและส่งผลให้ทารกในครรภ์ของเธอมีภาวะหัวใจพิการและหูหนวก

ข้อสรุป

การปลูกฝีเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมันในเด็ก ด้วยการปลูกฝีตามกำหนดเวลาที่แนะนำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เราสามารถช่วยปกป้องลูกหลานของเราจากความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่เกิดจากโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงเหล่านี้ได้

คำถามที่พบบ่อย

  1. การปลูกฝีจำเป็นสำหรับเด็กทุกคนหรือไม่
    - ใช่ การปลูกฝีเป็นวิธีการที่แนะนำสำหรับเด็กทุกคน เนื่องจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยการปลูกฝีสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกคน
  2. ปลูกฝีได้กี่ครั้ง
    - โดยทั่วไปเด็กจะได้รับการปลูกฝี 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออายุ 9 เดือน และครั้งที่สองเมื่ออายุ 4 ปี
  3. การปลูกฝีสามารถป้องกันโรคได้ตลอดชีวิตหรือไม่
    - ไม่ การปลูกฝีสามารถป้องกันโรคได้เป็นเวลานานหลายปี แต่ภูมิคุ้มกันอาจลดลงได้ตามเวลา จึงอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นในบางกรณี
  4. ปลูกฝีแล้วสามารถป่วยเป็นโรคได้หรือไม่
    - ได้ แต่จะพบได้น้อยมากและมักมีอาการไม่รุนแรง
  5. การปลูกฝีมีผลข้างเคียงรุนแรงหรือไม่
    - ไม่ การปลูกฝีโดยทั่วไปมีความปลอดภัยสูง อาการข้างเคียงที่อาจพบได้มักจะไม่รุนแรงและหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน
  6. การได้รับวัคซีนปลูกฝีมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงหรือไม่
    - ใช่ ประโยชน์ของการปลูกฝีในการป้องกันโรคและลดความรุนแรงของโรคมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียง
Time:2024-09-06 05:09:30 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss