Position:home  

ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง: ปกป้องตัวเองจากอันตรายที่มองไม่เห็น

การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองเป็นวิธีง่ายๆ ที่ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้เพื่อตรวจหาสัญญาณของมะเร็งปากมดลูกแต่เนิ่นๆ มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ซึ่งหากตรวจพบได้เร็วย่อมมีโอกาสรักษาได้สูง

ตามสถิติของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ในแต่ละปีมีผู้หญิงกว่า 570,000 คนทั่วโลกที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 311,000 คนจากโรคนี้ มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ Human papillomavirus (HPV) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์

แม้ว่าการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองจะไม่สามารถวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ก็ช่วยให้ผู้หญิงสามารถตรวจหาความผิดปกติบางอย่างได้ด้วยตนเอง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้

วิธีตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง

วิธีตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง

  1. ล้างมือให้สะอาด: ก่อนทำการตรวจ ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ
  2. นั่งในท่าที่สบาย: นั่งในท่าที่สบาย เช่น นั่งบนโถส้วมหรือเก้าอี้ที่มีพนักพิง
  3. สอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอด: สอดนิ้วชี้หรือกลางเข้าไปในช่องคลอด ประมาณ 2-3 นิ้ว
  4. คลำบริเวณปากมดลูก: คลำบริเวณปากมดลูกซึ่งจะรู้สึกเหมือนก้อนกลมหรือรูปทรงกระบอก อยู่บริเวณปลายนิ้ว
  5. ตรวจดูลักษณะของปากมดลูก: ให้สังเกตลักษณะของปากมดลูกว่ามีลักษณะเรียบหรือขรุขระ มีก้อนหรือตุ่มใดๆ หรือไม่
  6. ตรวจดูเลือดหรือหนอง: ตรวจดูว่ามีเลือดหรือหนองไหลออกมาจากช่องคลอดหรือไม่

อาการที่ต้องสังเกต

ขณะตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง ให้สังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติ เช่น

  • มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ เช่น เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์, เลือดออกระหว่างรอบเดือน
  • มีตกขาวมากผิดปกติ หรือมีกลิ่นเหม็น
  • ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือหลังส่วนล่าง
  • ปัสสาวะบ่อยหรือมีอาการแสบขณะปัสสาวะ
  • ท้องอืดหรือท้องเฟ้อเรื้อรัง

หากพบอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้อง

ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก

ผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้ มีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า

  • ติดเชื้อ HPV
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • มีคู่นอนหลายคน
  • สูบบุหรี่
  • มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก

มีวิธีต่างๆ มากมายที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ได้แก่

  • การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV: วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
  • การตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ: การตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที
  • การใช้ถุงยางอนามัย: การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV
  • การเลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูก
  • การรักษาสุขภาพโดยรวม: การรักษาสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งทุกชนิด รวมถึงมะเร็งปากมดลูก

ตารางสรุปอาการของมะเร็งปากมดลูก

อาการ สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น
เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ มะเร็งปากมดลูก
ตกขาวมากผิดปกติ มะเร็งปากมดลูก, การติดเชื้อ
ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือหลังส่วนล่าง มะเร็งปากมดลูก, โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ
ปัสสาวะบ่อยหรือมีอาการแสบขณะปัสสาวะ มะเร็งปากมดลูก, การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ท้องอืดหรือท้องเฟ้อเรื้อรัง มะเร็งปากมดลูก, โรคลำไส้แปรปรวน

ตารางสรุปปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก

ปัจจัยเสี่ยง ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
การติดเชื้อ HPV มากกว่า 90%
มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย 2-3 เท่า
มีคู่นอนหลายคน 2-3 เท่า
สูบบุหรี่ 1.5-2 เท่า
มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ 2-3 เท่า
มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก 2-3 เท่า

ตารางสรุปวิธีการป้องกันมะเร็งปากมดลูก

วิธีการป้องกัน ประสิทธิภาพ
การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HPV
การตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ ช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
การใช้ถุงยางอนามัย ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV
การเลิกสูบบุหรี่ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูก
การรักษาสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งทุกชนิด

เคล็ดลับและเทคนิค

  • ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองทุกเดือนหลังจากมีประจำเดือนหมด
  • หากพบความผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
  • ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ตามที่แพทย์แนะนำ
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • เลิกสูบบุหรี่
  • รักษาสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง

เรื่องราวที่มาพร้อมรอยยิ้ม

เรื่องที่ 1:

ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง: ปกป้องตัวเองจากอันตรายที่มองไม่เห็น

คุณหมอถามคนไข้ว่า "ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ"

คนไข้ตอบว่า "40 ปีค่ะ"

คุณหมอถามต่อว่า "แล้วคุณตรวจมะเร็งปากมดลูกครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับ"

มะเร็งปากมดลูก

คนไข้ตอบว่า "ตอนอายุ 20 ปีค่ะ"

คุณหมอจึงบอกว่า "ได้เวลาตรวจอีกครั้งแล้วครับ"

คนไข้ตกใจและพูดว่า "โอ้โห! ตั้ง 20 ปีแล้วเหรอคะ แสดงว่ามะเร็งปากมดลูกต้องรุ่นคุณย่าคุณยายไปแล้วสิคะ"

เรื่องที่ 2:

สามีพาภรรยาไปตรวจมะเร็งปากมดลูก

หลังจากตรวจเสร็จ คุณหมอเรียกสามีไปคุยและบอกว่า

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss