ปลูกแตงกวาฉบับสมบูรณ์ แบบมืออาชีพปลูกได้ คุณก็ปลูกได้

แตงกวา ผักแสนกรอบ สดชื่น ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกมากมาย จึงเป็นผักที่ทุกคนชื่นชอบและนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย แต่ถึงแม้ว่าแตงกวาจะเป็นผักที่ปลูกง่าย แต่ก็มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณปลูกแตงกวาได้ดก ลูกดก และมีคุณภาพดี มาดูวิธีปลูกแตงกวาฉบับสมบูรณ์กันเลย

การเตรียมดิน

ก่อนที่จะปลูกแตงกวา เราต้องเตรียมดินให้พร้อมเสียก่อน โดยดินที่เหมาะสำหรับการปลูกแตงกวาควรเป็นดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีค่า pH อยู่ระหว่าง 6.0-6.8 และมีการระบายน้ำที่ดี หากดินมีสภาพเป็นกรด ให้ปรับสภาพดินโดยการใส่ปูนขาวลงไป

การเตรียมเมล็ดพันธุ์

ในการปลูกแตงกวา ควรเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาตรฐานจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ก่อนที่จะนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูก ควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่นประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ดูดซับน้ำและงอกได้เร็วขึ้น

การเพาะเมล็ด

เมื่อเมล็ดพันธุ์ดูดซับน้ำจนพองตัวแล้ว ให้เตรียมกระบะเพาะ โดยใช้ดินร่วนผสมกับปุ๋ยคอกในอัตราส่วน 3:1 แล้วนำเมล็ดพันธุ์ที่แช่น้ำแล้วมาหยอดลงในกระบะเพาะ โดยให้แต่ละหลุมมีระยะห่างประมาณ 5-7 เซนติเมตร จากนั้นกลบดินบางๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

การย้ายกล้า

เมื่อต้นกล้าแตงกวามีใบจริง 2-3 ใบ หรืออายุประมาณ 14-15 วัน ก็สามารถย้ายกล้าลงแปลงปลูกได้ โดยก่อนที่จะย้ายกล้า ควรรดน้ำแปลงปลูกให้ชุ่มเสียก่อน แล้วจึงขุดหลุมปลูก โดยให้แต่ละหลุมมีระยะห่างประมาณ 60-90 เซนติเมตร นำต้นกล้าแตงกวาลงปลูกโดยให้ระดับความลึกเท่ากับกระบะเพาะ แล้วกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม

การให้น้ำ

แตงกวาเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ติดดอกและติดผล ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ดินมีความชื้นแต่ไม่แฉะเกินไป เพราะจะทำให้รากเน่าได้

การให้ปุ๋ย

เพื่อให้แตงกวามีการเจริญเติบโตที่ดีและให้ผลผลิตสูง ควรให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วงแรกหลังจากย้ายกล้าลงแปลงปลูก ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา 100-150 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่อแตงกวาเริ่มติดดอกให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ในอัตรา 50-75 กิโลกรัมต่อไร่

การกำจัดวัชพืช

วัชพืชสามารถแย่งน้ำ แสงแดด และสารอาหารจากแตงกวาได้ ดังนั้นควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้วิธีถอนหรือใช้สารกำจัดวัชพืช แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้สารกำจัดวัชพืชไปโดนต้นแตงกวา

การป้องกันกำจัดโรคและแมลง

แตงกวาสามารถเกิดโรคและแมลงศัตรูได้หลายชนิด เช่น โรคราแป้ง โรคใบจุด และแมลงเต่าแตง ดังนั้นเกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ และหากพบโรคหรือแมลงศัตรู ให้รีบกำจัดโดยใช้สารเคมีกำจัดโรคและแมลงที่ได้มาตรฐาน

การเก็บเกี่ยว

แตงกวาสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 50-60 วัน โดยสังเกตจากผลแตงกวามีขนาดใหญ่เต็มที่ ผิวเต่งตึง และมีสีเขียวเข้ม วิธีการเก็บเกี่ยวให้ใช้มีดหรือกรรไกรตัดขั้วผลแตงกวาออก แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาดก่อนนำไปจำหน่ายหรือบริโภค

ประโยชน์ของแตงกวา

แตงกวามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเค โพแทสเซียม และแมกนีเซียม แตงกวายังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ นอกจากนี้แตงกวายังมีฤทธิ์เย็น ช่วยดับกระหายและลดอาการร้อนในได้อีกด้วย

เคล็ดลับการปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตสูง

1. เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาตรฐานจากแหล่งที่เชื่อถือได้
2. เตรียมดินให้มีสภาพที่เหมาะสมก่อนปลูก
3. ให้ปุ๋ยและน้ำอย่างสม่ำเสมอ
4. กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
5. ป้องกันกำจัดโรคและแมลงอย่างถูกวิธี

เรื่องเล่าขำๆ เกี่ยวกับการปลูกแตงกวา

1. ครั้งหนึ่งมีเกษตรกรปลูกแตงกวาเป็นจำนวนมาก แต่แตงกวาที่ได้กลับมีขนาดเล็กและไม่สมบูรณ์ เกษตรกรจึงไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่า "คุณปลูกแตงกวามากเกินไป เมื่อต้นแตงกวาได้รับแสงแดดและสารอาหารไม่เพียงพอ ผลแตงกวาจึงออกมาเล็กและไม่สมบูรณ์" เกษตรกรจึงลดจำนวนต้นแตงกวาลง และแตงกวาที่ได้ก็มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ขึ้น
2. มีเกษตรกรอีกท่านหนึ่งปลูกแตงกวาในปีแรก แต่แตงกวาที่ได้มีรสขมมาก เกษตรกรจึงไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่า "คุณให้น้ำต้นแตงกวาน้อยเกินไป น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของแตงกวา เมื่อต้นแตงกวาขาดน้ำ แตงกวาจะสร้างสารที่ทำให้มีรสขม" เกษตรกรจึงให้น้ำต้นแตงกวาอย่างสม่ำเสมอ และแตงกวาที่ได้ก็มีรสหวานกรอบ
3. เกษตรกรอีกท่านหนึ่งปลูกแตงกวาเป็นจำนวนมาก แต่แตงกวาที่ได้กลับมีรูปร่างแปลกๆ เช่น กลม หัวแหลม หรือยาวผิดปกติ เกษตรกรจึงไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่า "คุณผสมเกสรดอกแตงกวาไม่ทั่วถึง เมื่อดอกแตงกวาได้รับการผสมเกสรไม่ทั่วถึง แตงกวาที่ได้ก็จะมีรูปร่างแปลกๆ" เกษตรกรจึงผสมเกสรดอกแตงกวาอย่างทั่วถึง และแตงกวาที่ได้ก็มีรูปร่างสวยงาม

เรื่องราวขำๆ เหล่านี้สอนให้เรารู้ว่าการปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตสูงนั้นมีเทคนิคและขั้นตอนต่างๆ มากมาย หากเราไม่ใส่ใจในรายละเอียด ผลผลิตที่ได้ก็อาจไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ

ข้อควรระวังในการปลูกแตงกวา

1. อย่าปลูกแตงกวาในดินที่แฉะเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าและต้นแตงกวาตายได้
2. อย่าให้ปุ๋ยมากเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นแตงกวาล้มและผลแตงกวาแตกได้
3. อย่าใช้น้ำที่มีคลอรีนสูงมารดน้ำต้นแตงกวา เพราะคลอรีนจะทำลายระบบรากของต้นแตงกวาได้
4. **อย่าปลูกแตง