Position:home  

แผ่นดินถล่ม ภัยธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม

จากสถิติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าในปี 2565 ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่มสูงถึง 102 ครั้ง คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20 ราย และสร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้อาจดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับภัยพิบัติอื่นๆ แต่แผ่นดินถล่มกลับเป็นภัยร้ายที่ส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุของแผ่นดินถล่ม

แผ่นดินถล่มเกิดขึ้นเมื่อมวลดินหรือหินไหลลงมาจากที่สูงหรือเนินเขา สาเหตุหลักๆ ได้แก่

  1. ฝนตกหนักและต่อเนื่อง: ฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ดินอุ้มน้ำจนหนักและอ่อนตัวลง
  2. สภาพพื้นที่: พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ภูเขาที่สูงชัน กำแพงดินที่ไม่เสถียร มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้ง่ายกว่าพื้นที่ราบ
  3. การตัดไม้ทำลายป่า: ต้นไม้ช่วยยึดดินให้อยู่ในที่ ทำให้ดินมีความเสถียรมากขึ้น เมื่อมีการตัดไม้ทำลายป่า ดินก็จะสูญเสียตัวประคอง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม
  4. แผ่นดินไหว: แผ่นดินไหวสามารถทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน รบกวนโครงสร้างของดินและทำให้ดินถล่มได้
  5. การใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่เหมาะสม: เช่น การสร้างบ้านเรือนบนหรือใกล้บริเวณที่ลาดชัน การขุดเจาะดินเพื่อทำเหมืองหรือวางท่อ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม

ผลกระทบของแผ่นดินถล่ม

แผ่นดินถล่มสามารถส่งผลกระทบได้รุนแรงทั้งในแง่มร่างกายและทรัพย์สิน

ผลกระทบทางร่างกาย:
- บาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต
- ทรัพย์สินเสียหาย
- การสัญจรหยุดชะงัก
- น้ำและไฟฟ้าดับ
- ความสูญเสียด้านจิตใจ

landslide oh wonder

ผลกระทบทางทรัพย์สิน:
- บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหาย
- ถนนสะพานถูกตัดขาด
- ไร่นาเสียหาย
- ป่าไม้ถูกทำลาย

การป้องกันและบรรเทาภัยแผ่นดินถล่ม

การป้องกันและบรรเทาภัยแผ่นดินถล่มสามารถทำได้โดย

  1. การจัดการป่าไม้: รักษาและปลูกป่าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อให้ต้นไม้ช่วยยึดดินและป้องกันการกัดเซาะ
  2. การวางผังเมือง: หลีกเลี่ยงการสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม
  3. การสร้างเขื่อนป้องกัน: สร้างเขื่อนหรือกำแพงป้องกันเพื่อชะลอความเร็วหรือเปลี่ยนทิศทางการไหลของดิน
  4. การจัดการน้ำ: สร้างระบบระบายน้ำที่ดีเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในพื้นที่เสี่ยง
  5. การเตือนภัย: ติดตั้งระบบเตือนภัยเพื่อแจ้งเตือนประชาชนเมื่อมีความเสี่ยงแผ่นดินถล่ม
  6. การซ้อมแผนเผชิญเหตุ: ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินถล่มเพื่อให้ประชาชนรู้วิธีการรับมืออย่างปลอดภัย

สถิติแผ่นดินถล่มในประเทศไทย

จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า เขตภาคใต้ เป็นพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่มสูงที่สุด รองลงมาคือ เขตภาคเหนือ และ เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงปี 2560-2565 ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่มรวมทั้งสิ้น 407 ครั้ง คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 60 ราย และสร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

แผ่นดินถล่ม ภัยธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม

ตารางภัยแผ่นดินถล่มในประเทศไทย

ปี จำนวนเหตุการณ์ จำนวนผู้เสียชีวิต มูลค่าความเสียหาย (บาท)
2560 60 15 120 ล้าน
2561 72 20 150 ล้าน
2562 85 12 200 ล้าน
2563 90 6 100 ล้าน
2564 50 4 50 ล้าน
2565 102 20 100 ล้าน

เรื่องตลกเกี่ยวกับแผ่นดินถล่มและบทเรียนที่ได้

  1. เรื่องตลก: นักธรณีวิทยาไปสำรวจพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินถล่ม แล้วก็เจอกับชาวบ้านยืนโบกมืออยู่ริมถนน นักธรณีวิทยาเลยตะโกนถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?" ชาวบ้านตอบว่า "รถผมถูกดินถล่มกลบไปแล้วครับ ผมเลยโบกให้ดินช่วยขุดรถผมขึ้นมา"

บทเรียนที่ได้: แม้แต่ในสถานการณ์วิกฤติ เราก็ยังสามารถมีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีได้

  1. เรื่องตลก: ชายคนหนึ่งเดินอยู่ในป่า แล้วก็เจอแผ่นดินถล่มไหลลงมา เขาเลยรีบวิ่งหนีสุดชีวิต พอวิ่งมาได้สักพัก เขาก็สะดุดหกล้มลง แต่กลับพบว่าดินถล่มได้ไหลผ่านเขาไปแล้ว

บทเรียนที่ได้: บางครั้งการหยุดพักหรือล่าช้าก็อาจเป็นสิ่งดี เพราะอาจช่วยให้เราหลุดพ้นจากอันตรายได้

  1. เรื่องตลก: นักข่าวรายงานข่าวแผ่นดินถล่มในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า "ผมยังโชคดีที่หนีออกจากบ้านได้ทัน ก่อนที่บ้านจะถูกดินถล่มถล่มไปทั้งหลัง" นักข่าวถามว่า "แล้วคุณมีเวลาเก็บของมีค่าอะไรออกมาได้บ้าง" ชาวบ้านตอบว่า "ผมเก็บกระเป๋าเป้มาแค่ใบเดียว แต่กลับติดอยู่ที่เสาบ้าน เลยได้แค่เอาเสามาด้วย"

บทเรียนที่ได้: ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่าลืมนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นอันดับแรก สิ่งของมีค่าสามารถหาใหม่ได้

ฝนตกหนักและต่อเนื่อง:

วิธีการรับมือกับแผ่นดินถล่มแบบทีละขั้นตอน

  1. สังเกตสัญญาณอันตราย: เช่น ฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง พื้นดินเริ่มมีการเคลื่อนไหวหรือแยกตัว
  2. อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย: รีบอพยพไปยังพื้นที่สูงหรือพื้นที่โล่งห่างจากบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม
  3. แจ้งเจ้าหน้าที่: แจ้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือ
  4. หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์: หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ในบริเวณที่มีความเสี่ยง เพราะอาจถูกดินถล่มกลบได้
  5. ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารการเตือนภัยแผ่นดินถล่มจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  6. เตรียมพร้อมรับมือ: เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินที่มีน้ำ อาหาร ยา และของจำเป็นอื่นๆ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

เหตุใดแผ่นดินถล่มจึงสำคัญและมีประโยชน์

แผ่นดินถล่มมีความสำคัญเพราะ:

  • ช่วยนำพาแร่ธาตุและสารอาหารจากที่สูงลงมาสู่พื้นที่บริเวณเชิงเขา ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์
  • สร้างความหลากหลายทางชีวภาพโดยการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยใหม่ๆ สำหรับพืชและสัตว์
  • ก่อตัวเป็นภูมิประเทศใหม่ๆ เช่น หุบเขา ผาชัน และที่ราบเชิงเขา
Time:2024-09-07 00:01:08 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss