Position:home  

ไม้ชุมแสง: ต้นไม้มงคลแห่งความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง

ไม้ชุมแสงเป็นไม้ที่คนไทยนิยมปลูกกันมากเพราะเชื่อกันว่าเป็นไม้มงคลที่ช่วยให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งแก่ผู้ปลูก โดยเฉพาะเมื่อปลูกไว้ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นทิศมงคลสำหรับเรื่องเงินทองและโชคลาภ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของไม้ชุมแสง

ไม้ชุมแสงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Peltophorum pterocarpum เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 15-25 เมตร ลำต้นตรง เปลือกสีน้ำตาล มีใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเป็นรูปไข่ปลายแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาเป็นมัน เนื้อไม้แข็งแรง ทนทานต่อปลวกและแมลงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ความเชื่อเกี่ยวกับไม้ชุมแสง

คนไทยโบราณเชื่อว่าไม้ชุมแสงเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทพารักษ์สถิตอยู่ มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง มีอิทธิฤทธิ์ในการปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเรื่องภูตผีปีศาจ จึงนิยมปลูกไว้ในบริเวณบ้านเรือน วัดวาอาราม หรือสถานที่ราชการต่างๆ

นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าไม้ชุมแสงเป็นไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่งคั่งแก่ผู้ปลูก โดยเฉพาะเมื่อปลูกไว้ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นทิศมงคลสำหรับเรื่องเงินทองและโชคลาภ

ไม้ ชุมแสง

ประโยชน์ของไม้ชุมแสง

นอกจากความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม้ชุมแสงยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่

  • ใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้: เนื้อไม้ชุมแสงมีความแข็งแรง ทนทานต่อปลวกและแมลงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และงานก่อสร้างต่างๆ
  • ใช้ประโยชน์จากใบและดอก: ใบและดอกของไม้ชุมแสงมีสรรพคุณทางยา สามารถนำมาต้มกินหรือใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคผิวหนัง โรคปวดข้อ และโรคกระเพาะอาหาร
  • ใช้ประโยชน์จากราก: รากของไม้ชุมแสงมีสรรพคุณทางยาเช่นเดียวกับใบและดอก สามารถนำมาต้มกินหรือใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาโรคต่างๆ ได้
  • ใช้ประโยชน์ในการ озеленение: ไม้ชุมแสงเป็นไม้ที่ให้ร่มเงาได้ดี จึงนิยมนำมาปลูกในสวนสาธารณะ สวนหย่อม หรือริมถนนเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น

การปลูกและดูแลรักษาไม้ชุมแสง

การปลูกและดูแลรักษาไม้ชุมแสงนั้นไม่ยาก เพียงแค่ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • การเตรียมดิน: ไม้ชุมแสงชอบดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำได้ดี ควรเตรียมดินโดยการขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าขนาดของรากต้นไม้ แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  • การปลูก: นำต้นไม้ชุมแสงลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ แล้วกลบดินให้แน่น โดยระวังอย่าให้รากช้ำหรือหัก จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม
  • การดูแลรักษา: ไม้ชุมแสงเป็นไม้ที่ชอบน้ำปานกลาง ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรอบโคนต้นทุกๆ 3-4 เดือนเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

ตารางสรุปข้อมูลเกี่ยวกับไม้ชุมแสง

ลักษณะ ข้อมูล
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Peltophorum pterocarpum
วงศ์ Fabaceae
ชื่อสามัญ ชุมแสง
ลักษณะ ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ความสูง 15-25 เมตร
ลำต้น ตรง เปลือกสีน้ำตาล
ใบ ประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเป็นรูปไข่ปลายแหลม
ดอก สีเหลือง เป็นช่อขนาดใหญ่
ผล ฝักแบน สีน้ำตาล
สรรพคุณทางยา รักษาโรคผิวหนัง โรคปวดข้อ โรคกระเพาะอาหาร

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับไม้ชุมแสง

  • ไม้ชุมแสงเป็นไม้ยืนต้นประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
  • ไม้ชุมแสงเป็นผลไม้ที่ขึ้นบนต้นไม้
  • ดอกชุมแสงมีสีเหลืองอร่ามเต็มต้นทำให้มองเห็นได้เด่นชัดในยามต้นฤดูร้อน
  • ชุมแสงเป็นต้นไม้ที่โตเร็ว
  • ชุมแสงเป็นต้นไม้ที่ใบไม่ค่อยผลัดใบ
  • ชุมแสงมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชุมแสงแดงและชุมแสงเหลือง

เรื่องเล่าเกี่ยวกับไม้ชุมแสง

เรื่องเล่าที่ 1

มีเรื่องเล่าว่าในสมัยโบราณมีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ นางชุม ที่มีความสวยงามเป็นที่เลื่องลือ นางชุมแอบรัก เจ้าชายแสง ซึ่งเป็นเจ้าชายรูปงามแห่งเมืองหนึ่ง แต่เจ้าชายแสงนั้นมีคู่หมั้นหมายแล้ว นางชุมจึงเกิดความเศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด

ไม้ชุมแสง: ต้นไม้มงคลแห่งความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง

หลังจากนางชุมเสียชีวิต ชาวบ้านจึงได้นำศพของนางไปฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ปรากฏว่าต้นไม้นั้นได้แตกใบและออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มต้นราวกับแสงทองที่ส่องลงมาจากสวรรค์ ชาวบ้านจึงเรียกต้นไม้นั้นว่า ต้นชุมแสง เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของนางชุม

เรื่องเล่าที่ 2

มีเรื่องเล่าว่าในสมัยก่อนมีขุนนางคนหนึ่งชื่อ ขุนแสง ที่มีความเก่งกล้าสามารถในการรบเป็นอย่างมาก แต่ทว่าขุนแสงนั้นมีนิสัยโหดเหี้ยม ชอบทารุณกรรมผู้อื่น ชาวบ้านจึงเกลียดชังขุนแสงเป็นอย่างมาก

วันหนึ่งขุนแสงได้ออกไปรบกับข้าศึก แต่กลับพ่ายแพ้และถูกข้าศึกจับตัวไป ขุนแสงถูกจองจำอยู่ในคุกเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ นางชุม หลุดเข้ามาในคุก นางชุมมีความสงสารขุนแสง จึงแอบนำอาหารและน้ำมาให้ขุนแสงกิน

ขุนแสงซาบซึ้งในน้ำใจของนางชุมเป็นอย่างมาก และได้สัญญากับนางชุมว่าหากตนได้เป็นอิสระแล้ว จะตอบแทนบุญคุณของนางชุมอย่างแน่นอน

ในที่สุดขุนแสงก็สามารถหนีออกจากคุกได้ และได้กลับมายังบ้านเกิดของตน ขุนแสงได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนางชุม โดยได้พานางชุมไปอยู่ด้วยกันและแต่งงานกันในเวลาต่อมา

ขุนแสงและนางชุมได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยขุนแสงได้เลิกนิสัยโหดเหี้ยมของตนเอง และกลายมาเป็นคนใจดีและเมตตา ชาวบ้านจึงเคารพรักขุนแสงและนางชุมเป็นอย่างมาก

หลังจากขุนแสงและนางชุมเสียชีวิต ชาวบ้านได้นำศพของทั้งสองไปฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ปรากฏว่าต้นไม้นั้นได้แตกใบและออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มต้น ชาวบ้านจึงเรียกต้นไม้นั้นว่า ต้นชุมแสง เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความรักและความเมตตาของขุนแสงและนางชุม

เรื่องเล่าที่ 3

มีเรื่องเล่าว่าในสมัยโบราณ

Peltophorum pterocarpum

Time:2024-09-07 01:29:50 UTC

newthai   

TOP 10
Don't miss