ครีมโอ: ขนมคุกกี้ยอดนิยมที่ครองใจคนไทยมายาวนาน

ครีมโอ ผลิตภัณฑ์ขนมคุกกี้ที่ครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 50 ปี ด้วยรสชาติแสนอร่อยและคุณภาพเยี่ยม ครีมโอกลายเป็นขนมขบเคี้ยวที่ขาดไม่ได้ในทุกๆ โอกาส ด้วยยอดขายกว่า 2,000 ล้านชิ้นต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย

ประวัติความเป็นมาของครีมโอ

ครีมโอถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2509 โดยบริษัท ยูนิฟ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตขนมรายใหญ่ของไทย ครั้งแรกที่วางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2512 ครีมโอได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคตั้งแต่แรก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ด้วยรสชาติอร่อย กลมกล่อมลงตัว และราคาที่เป็นมิตร

ส่วนผสมคุณภาพที่ใช้ในครีมโอ

ครีมโอให้ความสำคัญอย่างมากกับคุณภาพของส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตเพื่อให้ได้ขนมคุกกี้ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค ส่วนผสมหลักที่ใช้ในครีมโอได้แก่

• แป้งสาลีคุณภาพเยี่ยม
• น้ำตาลทราย
• เนยแท้
• นมผง
• ไข่
• ผงโกโก้ (สำหรับครีมโอรสช็อกโกแลต)

ครีมโอไม่ใช้สารกันบูดและสีสังเคราะห์ใดๆ จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

กระบวนการผลิตขั้นสูง

ครีมโอผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐานโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่การเตรียมส่วนผสมไปจนถึงการบรรจุหีบห่อ โดยมีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้

• ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันจนได้แป้งที่เนียนละเอียด
• ปั้นแป้งเป็นรูปร่างตามต้องการ
• อบในเตาอบอุณหภูมิสูงเป็นเวลาที่เหมาะสม
• รอให้ขนมคุกกี้เย็นลงก่อนที่จะบรรจุหีบห่อ

กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันนี้ ช่วยให้ครีมโอคงความอร่อย สดใหม่ กรอบนอก นุ่มใน ได้อย่างลงตัว

รสชาติยอดนิยมของครีมโอ

ครีมโอมีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรรเพื่อตอบสนองความชอบที่หลากหลายของผู้บริโภค รสชาติยอดนิยม ได้แก่

• ครีมโอ original
• ครีมโอ ช็อกโกแลต
• ครีมโอ มะพร้าว
• ครีมโอ สตรอว์เบอร์รี่
• ครีมโอ ส้ม
• ครีมโอ ชาเขียว
• ครีมโอ เนยถั่ว

ประโยชน์ของการรับประทานครีมโอ

แม้ว่าขนมคุกกี้จะเป็นอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล แต่ครีมโอมีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ประโยชน์เหล่านั้นได้แก่

• ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว: ครีมโอมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
• อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ: ครีมโอที่ผลิตจากนมผงและไข่ เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี12 แคลเซียม และเหล็ก
• ช่วยเพิ่มอารมณ์: ครีมโอมีส่วนผสมของช็อกโกแลตและน้ำตาล ซึ่งอาจช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ดีและความสุข
• ช่วยคลายเครียด: การรับประทานขนมคุกกี้สามารถช่วยคลายเครียดได้ เนื่องจากกระบวนการเคี้ยวช่วยปลดปล่อยสารเอ็นโดรฟินที่มีคุณสมบัติคลายเครียด

ข้อมูลโภชนาการของครีมโอ

ปริมาณครีมโอ 6 ชิ้น (30 กรัม) มีข้อมูลโภชนาการดังนี้

ตารางเปรียบเทียบคุณค่าโภชนาการของครีมโอรสชาติต่างๆ

ข้อควรระวังในการรับประทานครีมโอ

แม้ว่าครีมโอจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลและไขมันที่สูง ดังนั้น ข้อควรระวังในการรับประทานครีมโอ ได้แก่

• รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ: ครีมโอมีน้ำตาลและไขมันที่สูง ควรรับประทานไม่เกิน 2-3 ชิ้นต่อวันเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับปริมาณน้ำตาลและไขมันมากเกินไป
• เลือกครีมโอที่ไม่มีส่วนผสมเพิ่มเติม: ครีมโอส่วนใหญ่จะมีรสชาติหวานอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงการรับประทานครีมโอที่มีส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น ช็อกโกแลตชิปหรือแยมผลไม้
• รับประทานครีมโอเป็นของว่าง: รับประทานครีมโอเป็นของว่างระหว่างมื้ออาหาร ไม่ควรรับประทานแทนอาหารมื้อหลัก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ

ข้อดีและข้อเสียของการรับประทานครีมโอ

ข้อดี

• รสชาติอร่อย กลมกล่อม กรอบนอก นุ่มใน
• มีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรรเพื่อตอบสนองความชอบที่หลากหลาย
• ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว
• อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด
• ช่วยคลายเครียด
• ราคาไม่แพง

ข้อเสีย

• มีน้ำตาลและไขมันสูง
• ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการมากนัก
• รับประทานมากเกินไปอาจน้ำหนักขึ้นได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมโอ

1. ครีมโอผลิตจากอะไร?

ครีมโอผลิตจากส่วนผสมหลัก ได้แก่ แป้งสาลี น้ำตาลทราย เนยแท้ นมผง ไข่ และผงโกโก้ (สำหรับรสช็อกโกแลต)

2. ครีมโอมีรสชาติใดบ้าง?

ครีมโอมีหลากหลายรสชาติ ได้แก่ Original ช็อกโกแลต มะพร้าว สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม ชาเขียว และเนยถั่ว

3. ครีมโอมีน้ำตาลมากไหม?

ครีมโอมีน้ำตาลในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ปริมาณครีมโอ 6 ชิ้น (30 กรัม) มีน้ำตาล 13 กรัม

4. ครีมโอมีอายุการเก็บรักษานานเท่าไร?

ครีมโอมักจะมีอายุการเก็บรักษาประมาณ 6 เดือน

5. ครีมโอมีวางจำหน่ายในประเทศใดบ้าง?

ครีมโอมีวางจำหน่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

**6