ลาบผัด หอมฉุย รสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง

ลาบผัด เมนูอาหารไทยรสชาติจัดจ้านที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยวัตถุดิบหลักอย่างเนื้อสัตว์ หมักกับเครื่องเทศและสมุนไพรไทยนานาชนิด แล้วนำไปผัดจนเข้าเนื้อ ส่งกลิ่นหอมชวนหิวไม่ว่าใครก็ต้องน้ำลายไหล

ประวัติความเป็นมาของลาบผัด

ลาบผัดมีต้นกำเนิดมาจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งเดิมทีมีชื่อว่า ลาบดิบ โดยชาวอีสานจะใช้เนื้อวัวหรือเนื้อหมูดิบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศต่างๆ จากนั้นนำไปหมักทิ้งไว้นานถึง 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องเทศเข้าเนื้อ จากนั้นจึงนำไปผัดจนสุกหอมกรุ่น

ต่อมาลาบดิบได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สุกมากขึ้นเพื่อให้ถูกหลักอนามัยและลดความเสี่ยงจากการรับประทานเนื้อดิบ จึงกลายมาเป็น ลาบสุก หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า ลาบผัด

วัตถุดิบและเครื่องปรุงในการทำลาบผัด

• เนื้อสัตว์: เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือกุ้ง
• เครื่องเทศและสมุนไพร: พริกขี้หนู กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว
• เครื่องปรุงรส: น้ำปลา ซอสหอยนางรม น้ำตาลปี๊บ ผงชูรส
• ผักสำหรับตกแต่ง: ต้นหอม ผักชี หอมแดงซอย

ขั้นตอนการทำลาบผัด

1. หมักเนื้อสัตว์: นำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ในชาม ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม และผงชูรสเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที
2. เตรียมเครื่อง: โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และหอมแดงให้ละเอียด แล้วใส่ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดฉีก ผักชีฝรั่ง และผักชีลาวลงไป ตำให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ผัดลาบ: ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนได้ที่ก็ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ที่หมักไว้ลงไปผัดจนสุกเข้าเนื้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม และน้ำตาลปี๊บ ผัดให้ทั่วจนเครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ ปิดไฟ
4. ตกแต่ง: จัดลาบผัดใส่จาน ตกแต่งด้วยต้นหอม ผักชี และหอมแดงซอย

เคล็ดลับการทำลาบผัดให้อร่อย

• เลือกเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี: เนื้อสัตว์ที่ใช้ทำลาบผัดควรเลือกเนื้อสดใหม่ ไม่มีมันมากเกินไป
• หมักเนื้อสัตว์ส่วนผสมให้เข้าเนื้อ: การหมักเนื้อสัตว์จะทำให้เครื่องปรุงรสและเครื่องเทศซึมเข้าเนื้อ ทำให้ลาบผัดมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น
• ใช้ไฟแรงในการผัด: การใช้ไฟแรงจะทำให้เนื้อสัตว์สุกเร็วและมีความนุ่ม ไม่เหนียว
• ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซอสหอยนางรม: น้ำปลาและซอสหอยนางรมจะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับลาบผัด ทำให้อร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้น
• ตกแต่งด้วยผักสด: ผักสดจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและสีสันให้กับลาบผัด ทำให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น

ประโยชน์ของการรับประทานลาบผัด

นอกจากความอร่อยแล้ว ลาบผัดยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากมีส่วนผสมของสมุนไพรนานาชนิดที่มีสรรพคุณทางยา ดังนี้

• พริกขี้หนู: มีสารแคปไซซินที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
• กระเทียม: มีสารอัลลิซินที่ช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล
• หอมแดง: มีสารเคอร์ซิตินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
• ตะไคร้: มีสารซิตรัลที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
• ใบมะกรูด: มีสารลินาโลออลที่มีฤทธิ์ช่วยคลายเครียดและนอนหลับสบาย

ข้อควรระวังในการรับประทานลาบผัด

• ไม่ควรรับประทานมากเกินไป: ลาบผัดเป็นอาหารรสจัดที่มีไขมันสูง การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคหัวใจได้
• ไม่ควรรับประทานดิบ: เนื้อสัตว์ในลาบผัดควรปรุงสุกเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรค
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานลาบผัด

โต๊ะที่ 1: ปริมาณสารอาหารที่พบในลาบผัด 100 กรัม

โต๊ะที่ 2: ลำดับขั้นตอนการทำลาบผัด

โต๊ะที่ 3: คุณค่าทางโภชนาการของเครื่องเทศและสมุนไพรที่ใช้ในลาบผัด

เคล็ดลับและเทคนิคในการทำลาบผัดให้อร่อย

• ใช้เนื้อสัตว์ที่สดและมีคุณภาพดี: เนื้อสัตว์ที่ใช้ทำลาบผัดควรเป็นเนื้อสดใหม่ ไม่มีมันมากเกินไป เพื่อให้ได้ลาบผัดที่นุ่มและอร่อย
• **สับเนื้อ