Position:home  

ไข่มุกเคียงบัลลังก์: เส้นทางแห่งอภิมหาจักรพรรดินีซูสีไทเฮา

บทนำ

ในอ้อมกอดแห่งพระราชวังต้องห้าม อภิมหาจักรพรรดินีซูสีไทเฮา (1835-1908) ได้ทรงครองราชย์อยู่นานถึง 47 ปี ผู้ทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองอันดุเดือดและความท้าทายต่างๆ พระนางทรงประทับบนบัลลังก์ด้วยสติปัญญาและพละกำลังอันน่าทึ่ง ราวกับดั่งไข่มุกอันล้ำค่าที่เคียงคู่กับบัลลังก์ทองคำ

การเสด็จสู่บัลลังก์

**ประสูติ: ซูสีไทเฮาประสูติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1835 ในตระกูลเย่เหอนาลาที่ร่ำรวย

**การคัดเลือกเข้าพระราชวัง: เมื่ออายุได้ 16 ปี พระนางได้ถูกคัดเลือกเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามเพื่อเป็นพระสนมของจักรพรรดิเสียนเฟิง

**การขึ้นเป็นพระสนม: ในปี 1852 พระนางได้เป็นพระสนมพระองค์ที่สี่ของจักรพรรดิเสียนเฟิง ทรงได้รับพระนามว่า "พระสนมเย่"

ไข่มุกเคียงบัลลังก์

**การประสูติทายาท: ในปี 1856 พระนางได้ประสูติพระโอรสพระองค์เดียวของจักรพรรดิเสียนเฟิง คือ องค์ชายไจ้ฉุน

การครองราชย์

**การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิเสียนเฟิง: ในปี 1861 จักรพรรดิเสียนเฟิงได้สิ้นพระชนม์ พระโอรสของพระนางคือองค์ชายไจ้ฉุนได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิถงจื้อ

ไข่มุกเคียงบัลลังก์: เส้นทางแห่งอภิมหาจักรพรรดินีซูสีไทเฮา

**การสำเร็จราชการแทนพระราชโอรส: พระนางซูสีไทเฮาและพระนางซิอันพระมารดาจักรพรรดิได้ร่วมกันสำเร็จราชการแทนจักรพรรดิถงจื้อที่มีพระชันษาเพียง 6 ชันษา

การเสด็จสู่บัลลังก์

**การรัฐประหารซินโหย่ว: ในปี 1861 พระนางซูสีไทเฮาได้นำการรัฐประหารซินโหย่วเพื่อขับไล่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คนอื่นๆ และยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ

**การครองราชย์ร่วมกับจักรพรรดิถงจื้อ: เมื่อจักรพรรดิถงจื้อทรงบรรลุนิติภาวะในปี 1873 พระนางซูสีไทเฮาก็ยังคงมีอำนาจเบ็ดเสร็จ แม้ว่าในทางนามพระองค์จะทรงเป็นจักรพรรดิ

การครองราชย์เพียงลำพัง

**การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิถงจื้อ: ในปี 1875 จักรพรรดิถงจื้อได้สิ้นพระชนม์ พระนางซูสีไทเฮาได้เลือก องค์ชายไจ้เทียนพระโอรสของเจ้าชายชุน พระอนุชาในจักรพรรดิเสียนเฟิงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิกว่างซวี่

**การสำเร็จราชการแทนพระราชโอรสครั้งที่สอง: พระนางซูสีไทเฮาได้สำเร็จราชการแทนพระราชโอรสอีกครั้งหนึ่ง ทรงบริหารบ้านเมืองด้วยพระองค์เอง

**การปฏิรูปร้อยวัน: ในปี 1898 จักรพรรดิกว่างซวี่ได้ทรงประกาศปฏิรูปร้อยวัน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมและการปกครองจีน แต่ถูกพระนางซูสีไทเฮาปราบปราม

**การกบฏนักมวย: ในปี 1900 ขบวนการนักมวยได้ก่อกบฏต่อต้านชาวต่างชาติในจีน พระนางซูสีไทเฮาได้ทรงสนับสนุนขบวนการนี้ในช่วงแรก

การสิ้นสุดของราชวงศ์ชิง

**การยึดครองปักกิ่ง: ในปี 1900 กองกำลังพันธมิตรแปดชาติได้บุกเข้ามายึดครองปักกิ่ง พระนางซูสีไทเฮาพร้อมกับจักรพรรดิกว่างซวี่ได้เสด็จลี้ภัยไปยังเมืองซีอัน

ไข่มุกเคียงบัลลังก์: เส้นทางแห่งอภิมหาจักรพรรดินีซูสีไทเฮา

**การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิและพระนาง: ในปี 1908 จักรพรรดิกว่างซวี่ได้สิ้นพระชนม์ พระนางซูสีไทเฮาก็สิ้นพระชนม์ตามในวันถัดมา ราชวงศ์ชิงได้สิ้นสุดลง และสาธารณรัฐจีนได้ถือกำเนิดขึ้น

มรดกและการประเมิน

มรดกของพระนางซูสีไทเฮานั้นมีความซับซ้อน บางคนมองว่าพระนางเป็นผู้ทรงอำนาจที่โหดเหี้ยมและหัวรุนแรง ในขณะที่บางคนยกย่องพระนางในเรื่องความชาญฉลาดทางการเมืองและความสามารถในการปกครองบ้านเมือง

จุดแข็ง

  • สติปัญญาอันแหลมคมและไหวพริบในการเมือง
  • ความสามารถในการเอาตัวรอดและยึดอำนาจในสภาพการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์
  • ความกล้าหาญและความเด็ดขาดในการตัดสินใจ

จุดอ่อน

  • ความทะเยอทะยานที่ไร้ขีดจำกัดและความหิวกระหายอำนาจ
  • การขาดวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปประเทศในยุคสมัยใหม่
  • การสนับสนุนขบวนการนักมวย ซึ่งนำไปสู่การยึดครองปักกิ่งและการล่มสลายของราชวงศ์

สรุป

พระนางซูสีไทเฮาเป็นบุคคลที่น่าทึ่งและมีอิทธิพลในประวัติศาสตร์จีน พระนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่ครองราชย์เป็นเวลานานที่สุดในราชวงศ์ชิง และเป็นผู้ทรงอิทธิพลเบื้องหลังการปกครองของจักรพรรดิองค์สุดท้ายสองพระองค์ มรดกของพระนางยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ไม่มีข้อโต้แย้งเลยว่า พระนางทรงเป็น "ไข่มุกเคียงบัลลังก์" ที่เปล่งประกายตลอดประวัติศาสตร์

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss