โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก
มะเร็ง หรือ โรคร้ายเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากมาอย่างยาวนาน โดยในปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าปีละ 18 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 9.6 ล้านคนต่อปี ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 6 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก
สาเหตุของโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติและควบคุมไม่ได้ในร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังนี้
- สูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
- ขาดการออกกำลังกาย
- ดื่มสุราเป็นประจำ
- น้ำหนักเกินหรืออ้วน
- การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด
- การได้รับสารก่อมะเร็งจากสิ่งแวดล้อม เช่น รังสีหรือสารเคมี
ประเภทของโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น ปอด เต้านม ลำไส้ใหญ่ ตับ และกระเพาะอาหาร โดยประเภทของมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดได้แก่
-
มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้สูบบุหรี่
-
มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้หญิงจากโรคมะเร็ง
-
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองจากโรคมะเร็ง
-
มะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย และมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
-
มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศเอเชียตะวันออก และมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร
อาการของโรคมะเร็ง
อาการของโรคมะเร็งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง โดยอาการทั่วไปที่อาจพบได้ ได้แก่
- ก้อนหรือติ่งในร่างกายที่สัมผัสได้
- อาการเจ็บปวดหรือไม่สบายตัว
- การเปลี่ยนแปลงของนิสัยการขับถ่าย
- การไอหรือหายใจลำบาก
- เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลีย
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
การรักษาโรคมะเร็ง
การรักษาโรคมะเร็งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดและระยะของมะเร็ง อายุและสุขภาพโดยทั่วไปของผู้ป่วย รวมถึงการพิจารณาของแพทย์ โดยวิธีการรักษาที่พบบ่อย ได้แก่
-
การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับมะเร็งระยะแรก โดยจะทำการผ่าตัดเพื่อนำเซลล์มะเร็งออกจากร่างกาย
-
การฉายรังสี ใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มักใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เช่น การผ่าตัดหรือเคมีบำบัด
-
เคมีบำบัด ใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มักใช้เป็นการรักษาหลักหรือรักษาเสริมหลังการผ่าตัดหรือฉายรังสี
-
ภูมิคุ้มกันบำบัด ใช้ยาเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
-
การรักษาแบบมุ่งเป้า ใช้ยาที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ มักใช้สำหรับมะเร็งระยะลุกลาม
การป้องกันโรคมะเร็ง
แม้ว่าโรคมะเร็งอาจเป็นโรคร้ายแรง แต่ก็สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและนำวิถีชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเน้นผัก ผลไม้ และธัญพืช
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุราเป็นประจำ
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยควบคุมน้ำหนักและนอนหลับให้เพียงพอ
- ป้องกันการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่อาจนำไปสู่มะเร็ง เช่น ไวรัสตับอักเสบและเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร
เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ
ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนได้ต่อสู้กับโรคร้ายนี้ด้วยความกล้าหาญและมุ่งมั่น และได้รับชัยชนะเหนือโรคได้สำเร็จ ต่อไปนี้คือเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของผู้ป่วยมะเร็งที่เอาชนะความท้าทายและมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข
-
เรื่องที่ 1: นายสมชาย วัย 50 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 เมื่อได้รับการวินิจฉัยในปี 2015 แพทย์บอกว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการรักษาอย่างต่อเนื่อง นายสมชายสามารถต่อสู้กับโรคนี้ได้มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ปัจจุบันเขายังคงแข็งแรงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว
-
เรื่องที่ 2: นางสาวจันทร์จิรา วัย 35 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 เมื่อได้รับการวินิจฉัยในปี 2019 เธอต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉายรังสี และเคมีบำบัด แต่ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนๆ นางสาวจันทร์จิราสามารถต่อสู้กับโรคนี้ได้สำเร็จ ปัจจุบันเธอหายเป็นปกติและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
-
เรื่องที่ 3: นายไพโรจน์ วัย 60 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 เมื่อได้รับการวินิจฉัยในปี 2016 แพทย์แนะนำให้เขาผ่าตัด แต่ด้วยความกลัวและลังเล นายไพโรจน์จึงเลือกที่จะรักษาด้วยวิธีการอื่น ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต รับประทานอาหารที่ถูกต้อง และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปัจจุบันนายไพโรจน์มีสุขภาพที่แข็งแรงและสามารถควบคุมโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการเชิงขั้นตอน
หากคุณหรือคนที่คุณรักได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อรับการรักษาและการดูแลที่ดีที่สุด
-
พบแพทย์โดยเร็วที่สุด: เมื่อคุณสังเกตเห็นอาการที่อาจบ่งบอกถึงโรคมะเร็ง เช่น ก้อนหรือติ่งในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของนิสัยการขับถ่าย หรือความเจ็บปวดที่ไม่ทราบสาเหตุ ให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ
-
รับทราบการวินิจฉัยและตัวเลือกการรักษา: เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง แพทย์จะอธิบายเกี่ยวกับชนิดและระยะของมะเร็ง และหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
-
ทำตามแผนการรักษา: เมื่อคุณและแพทย์ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการรักษาแล้ว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติตามแผนการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรักษา
-
ดูแลสุขภาพทั่วไปของคุณ: ควบคู่ไปกับการรักษาโรคมะเร็ง สิ่งสำคัญคือต้องดูแลสุขภาพทั่วไปของคุณด้วย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรงและรับมือกับการรักษาได้ดีขึ้น
-
รับการสนับสนุน: การเป็นผู้ป่วย
