ท้องเสียควรกินอะไร? รวมอาหารที่เหมาะและไม่เหมาะกับภาวะท้องเสีย

ท้องเสียเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือพยาธิ อาหารเป็นพิษ หรือการแพ้อาหาร บางครั้งอาการท้องเสียอาจรุนแรงจนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นและป้องกันภาวะขาดน้ำ

อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ท้องเสีย

• กล้วย: กล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและมีปริมาณโปรแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นเกลือแร่ที่สูญเสียไปเมื่อท้องเสีย ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ได้
• ข้าวต้ม: ข้าวต้มเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีรสชาติอ่อนๆ และช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงาน
• แครกเกอร์: แครกเกอร์เป็นอาหารแห้งที่ช่วยดูดซับของเหลวในลำไส้ แต่อาจมีปริมาณโซเดียมสูง จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
• ซุปใส: ซุปใส เช่น ซุปไก่ ซุปผัก ช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวและช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
• มันฝรั่งบด: มันฝรั่งบดเป็นอาหารที่อ่อนนุ่ม ย่อยง่าย และมีปริมาณโพแทสเซียมสูง

อาหารที่ควรงดหรือรับประทานในปริมาณน้อยเมื่อท้องเสีย

• อาหารทอด: อาหารทอดมีไขมันสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียแย่ลง
• อาหารรสจัด: อาหารรสจัด เช่น ของเผ็ด ของเปรี้ยว ของเค็ม อาจระคายเคืองเยื่อบุระบบทางเดินอาหารและทำให้ท้องเสียแย่ลง
• ผลิตภัณฑ์จากนม: ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม ชีส ไอศกรีม อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียในบางคนได้
• ผักผลไม้บางชนิด: ผักผลไม้บางชนิด เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี อาจทำให้เกิดแก๊สและท้องอืดได้
• ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วและเมล็ดพืชบางชนิด เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วดำ ถั่วลิสง อาจทำให้เกิดแก๊สและท้องอืดได้

ตารางอาหารแนะนำสำหรับผู้ที่ท้องเสีย

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับท้องเสีย

• จิบน้ำบ่อยๆ: การจิบน้ำบ่อยๆ จะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ อาจดื่มน้ำเปล่า น้ำเกลือแร่ หรือน้ำซุปใส
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์: คาเฟอีนและแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้เกิดการคายน้ำ
• รับประทานอาหารบ่อยๆ แต่ละมื้อปริมาณน้อย: การรับประทานอาหารบ่อยๆ จะช่วยลดภาระให้ระบบทางเดินอาหาร และยังช่วยให้ลำไส้ดูดซับสารอาหารได้ดีขึ้น
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
• ล้างมือบ่อยๆ: การล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำ

วิธีปฏิบัติตามแนวทางแบบทีละขั้นตอน

1. จิบน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
3. รับประทานอาหารบ่อยๆ แต่ละมื้อปริมาณน้อย
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
5. ล้างมือบ่อยๆ

เหตุใดการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงสำคัญเมื่อท้องเสีย

การรับประทานอาหารที่เหมาะสมเมื่อท้องเสียเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และป้องกันภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ท้องเสียแย่ลงและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

ประโยชน์ของการรับประทานอาหารที่เหมาะสมเมื่อท้องเสีย

• ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
• ป้องกันภาวะขาดน้ำและเกลือแร่
• ลดอาการท้องเสียและคลื่นไส้
• ช่วยให้ร่างกายดูดซับสารอาหารได้ดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเมื่อท้องเสีย

1. ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันท้องเสีย?

อาการท้องเสียคือการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน

2. ฉันควรไปพบแพทย์เมื่อใด

ควรไปพบแพทย์หากมีอาการท้องเสียรุนแรงและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ ปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้หรืออาเจียนเป็นเลือด หรือท้องเสียเป็นเวลานานกว่า 2 วัน

3. ฉันสามารถรับประทานอาหารหลังจากท้องเสียหยุดได้ทันทีหรือไม่

ไม่ควรรับประทานอาหารหนักทันทีหลังจากท้องเสียหยุด เริ่มจากการรับประทานอาหารเบาๆ เช่น กล้วย ข้าวต้ม หรือแครกเกอร์ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณและชนิดอาหารที่รับประทานตามสภาพร่างกาย

4. ฉันควรหลีกเลี่ยงอาหารใดเมื่อท้องเสีย

ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด ผลิตภัณฑ์จากนม ผักผลไม้บางชนิด ถั่วและเมล็ดพืช

5. ฉันจะป้องกันท้องเสียได้อย่างไร

วิธีป้องกันท้องเสีย ได้แก่ การล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ไม่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่สุกหรือไม่สะอาด ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A และ B รวมถึงท้องเสียจากเชื้อโรต้า

6. ท้องเสียอาจเป็นอันตรายได้หรือไม่

ท้องเสียอาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ ภาวะช็อก และการติดเชื้อในลำไส้ หากมีอาการท้องเสียรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์