ต่อมลูกหมากโต: ทุกสิ่งที่คุณควรรู้

ต่อมลูกหมากเป็นต่อมขนาดเล็กที่อยู่ในระบบสืบพันธุ์ชาย ต่อมนี้ผลิตของเหลวที่ช่วยหล่อลื่นและปกป้องอสุจิในน้ำอสุจิ และมีบทบาทสำคัญในกระบวนการปัสสาวะ

เมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้น หรือที่เรียกว่า ต่อมลูกหมากโต (BPH) ก็สามารถทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด และกระแสปัสสาวะอ่อนหรือเป็นหยด

สาเหตุของต่อมลูกหมากโต

สาเหตุที่แท้จริงของ BPH ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะระดับฮอร์โมนเพศชาย

อาการของต่อมลูกหมากโต

อาการของ BPH อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาการทั่วไป ได้แก่:

• ปัสสาวะลำบาก
• ปัสสาวะบ่อย
• ปัสสาวะไม่สุด
• กระแสปัสสาวะอ่อนหรือเป็นหยด
• ปัสสาวะเล็ด
• ปัสสาวะขัด
• แรงเบ่งขณะปัสสาวะ

การวินิจฉัยต่อมลูกหมากโต

แพทย์จะวินิจฉัย BPH โดยพิจารณาประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ

การตรวจร่างกายอาจรวมถึงการตรวจทวารหนักเพื่อประเมินขนาดและความนุ่มของต่อมลูกหมาก การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือดและการตรวจปัสสาวะ อาจใช้เพื่อแยกแยะ BPH จากภาวะอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคล้ายกันได้

การรักษาต่อมลูกหมากโต

การรักษา BPH ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความต้องการของผู้ป่วย ตัวเลือกการรักษา ได้แก่:

• การใช้ยา: ยามีบทบาทสำคัญในการบรรเทาอาการ BPH โดยมักใช้เพื่อหดขนาดต่อมลูกหมากหรือคลายกล้ามเนื้อในกระเพาะปัสสาวะ
• การผ่าตัด: การผ่าตัดอาจเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา วิธีการผ่าตัดได้แก่ การผ่าตัดต่อมลูกหมากด้วยกล้อง (TURP) การผ่าตัดต่อมลูกหมากด้วยเลเซอร์ (HoLEP) และการผ่าตัดต่อมลูกหมากแบบเปิด
• การรักษาอื่นๆ: การรักษาอื่นๆ อาจรวมถึงเทคนิคที่รุกล้ำน้อยกว่าการผ่าตัด เช่น การรักษาด้วยคลื่นความร้อน (TUMT) การจี้ด้วยเข็ม (PAE) และการใช้ลิฟต์ต่อมลูกหมาก (PUL)

ภาวะแทรกซ้อนของต่อมลูกหมากโต

หากไม่ได้รับการรักษา BPH อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น:

• การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
• ความเสียหายของไต
• ภาวะปัสสาวะคั่งค้าง

การป้องกันต่อมลูกหมากโต

ไม่มีวิธีป้องกัน BPH อย่างแน่นอน แต่การดำเนินการบางอย่างอาจช่วยลดความเสี่ยง เช่น:

• รักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยการกินอาหารที่ดี ออกกำลังกาย และไม่สูบบุหรี่
• หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์และคาเฟอีนในปริมาณมาก
• ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจหาสัญญาณของ BPH ในระยะเริ่มต้น

ข้อมูลสถิติ

• ประมาณ 80% ของผู้ชายอายุมากกว่า 80 ปีมี BPH
• BPH เป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
• ค่าใช้จ่ายในการรักษา BPH ในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
• BPH เป็นสาเหตุหลักของการผ่าตัดต่อมลูกหมากในผู้ชาย

ตาราง

คำถามที่พบบ่อย

Q: ต่อมลูกหมากโตอันตรายร้ายแรงหรือไม่
A: หากไม่ได้รับการรักษา BPH อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ความเสียหายของไต และภาวะปัสสาวะคั่งค้าง

Q: ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันมีต่อมลูกหมากโต
A: อาการทั่วไปของ BPH ได้แก่ ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด กระแสปัสสาวะอ่อน ปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะขัด และแรงเบ่งขณะปัสสาวะ คุณควรไปพบแพทย์หากคุณมีอาการเหล่านี้

Q: การรักษาต่อมลูกหมากโตคืออะไร
A: ตัวเลือกการรักษา BPH ได้แก่ การใช้ยา การผ่าตัด และการรักษาอื่นๆ เช่น เทคนิคที่รุกล้ำน้อยกว่าการผ่าตัด เช่น การรักษาด้วยคลื่นความร้อน การจี้ด้วยเข็ม และการใช้ลิฟต์ต่อมลูกหมาก

ตาราง

ขั้นตอนทีละขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: ไปพบแพทย์

หากคุณมีอาการของ BPH คุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 2: รับการวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัย BPH โดยพิจารณาประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ

ขั้นตอนที่ 3: รับการรักษา

ตัวเลือกการรักษา BPH ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความต้องการของผู้ป่วย คุณควรหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษากับแพทย์ของคุณเพื่อตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

คำเรียกร้องให้ดำเนินการ

หากคุณมีอาการของ BPH อย่าเพิกเฉย ต่อมลูกหมากโตเป็นภาวะที่สามารถรักษาได้ แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ไปพบแพทย์วันนี้เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม